รายงานข่าวจากสำนักข่าว NIKKEI ASIA ระบุว่า นาย Naohiro Yamaguchi Managing Executive Officer ISUZU Motors ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรสุทธิในปีงบประมาณ 2566 (มีนาคม 2566 – เมษายน 2567) ที่จะลดลงราว -23% เหลืออยู่ที่ 1.35 แสนล้านเยน (ราว 3 หมื่นล้านบาท) จากต้นปีที่คาดว่าจะลดลงราว -9% ขณะที่ กำไรจากการดำเนินงานคาดว่าจะลดลงราว -22% เหลืออยู่ที่ 2.3 แสนล้านเยน (ราว 5.1 หมื่นล้านบาท)
ทั้งนี้ ด้านมูลค่ายอดขายของ อีซูซุ คาดว่าจะลดลงราว 1 แสนล้านเยน (ราว 2.2 หมื่นล้านบาท) ส่งผลให้คาดการณ์มูลค่ายอดขายของ อีซูซุ ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 3.25 ล้านล้านเยน (ราว 7.2 แสนล้านบาท) หรือลดลง -4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สัมภาษณ์พิเศษ ISUZU วันที่ตลาดกระบะหดตัว-คู่แข่งทวงแชมป์-ค่ายจีนบุก
สำหรับ สาเหตุเกิดจากตลาดรถกระบะ (ปิคอัพ) ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตลาดหลักสำคัญของ อีซูซุ นั้นลดลงอย่างรุนแรงต่อเนื่องในปี 2567 ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์หนี้ครัวเรือนสูง และสถาบันการเงินที่เข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อรถยนต์และอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อซึ่งทรงตัวอยู่ในระดับสูงมาเป็นเวลานานก่อนที่จะมีการปรับลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ก็ยังคงทรงตัวใกล้เคียงอยู่ในระดับสูง
ขณะที่ ISUZU ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายทั่วโลกลดลง -18% หรือลดลงราว 3.1 หมื่นคัน ส่งผลให้ตัวเลขคาดการณ์ยอดขายทั่วโลกลดลงเหลือ 5.44 แสนคัน โดยเฉพาะประเทศไทย อีซูซุ ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขายลง 1.1 หมื่นคัน หรือลดลงเหลือ 4.9 หมื่นคัน ในปีนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการปรับลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขายในประเทศไทยลงเป็นครั้งที่ 2 ของปี
“ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ล่าช้ามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามได้ประเมินว่าตลาดรถยนต์ในไทยน่าจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2568”
ที่มา : Nikkei Asia