นาย โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (Toyota) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ด้วยไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของโตโยต้า ทำให้บริษัทยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด และครองอันดับหนึ่งด้วยยอดขายสูงสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้ง 7 เซกเมนต์
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการเติบโตของตลาด xEV และ รถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ซึ่งการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ได้ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ในกลุ่มตลาด xEV เติบโตขึ้นด้วย หากแต่เมื่อพิจารณาด้านการใช้งานจริงแล้ว บริษัทยังเชื่อมั่นว่ารถยนต์ HEV ยังคงมีบทบาทสำคัญ สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันกับตลาดโลก สำหรับกลุ่มตลาด SUV มีกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ หรือ D-SUV ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่เป็นรถ BEV ทำให้ยอดขายรถ SUV ในปัจจุบันมีสัดส่วนสูงสุดในประเทศไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โตโยต้า กางแผนครึ่งปีหลัง เตรียมเปิดตัวอย่างน้อย 3 รุ่น ดันยอดขายปี’68
โตโยต้า จึงได้เปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่น ที่จะมาช่วยเสริมทัพไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการเติบโตของตลาดในเซกเมนต์นี้ได้อีกด้วย
Toyota bZ4X ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า 100% ในกลุ่ม D-segment โดยได้มีการเริ่มแนะนำลงสู่ตลาดในประเทศไทย ภายใต้มาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV3.0 ของรัฐบาลไทยในช่วงปี 2565 แต่เนื่องจากขีดจำกัดด้านการจัดสรรจำนวนรถในเวลานั้น ทำให้เราขายเพียงแค่ 132 คันเท่านั้น
สำหรับ Toyota bZ4X ใหม่ จะนำเข้าจากญี่ปุ่นในรูปแบบ CBU และเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 ด้วยเป้าหมายยอดขายอยู่ที่ 6,000 คันในช่วงปีแรก โดยเริ่มเปิดรับจองตั้งแต่บัดดนี้เป็นต้นไป โดย 2,000 คันแรกจะได้รับส่วนลด 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% โดยที่รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,5xx,xxx บาท และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,6xx,xxx บาท
นอกจากนี้ ได้เปิดตัว Toyota YARIS ATIV HEV ใหม่ ซึ่งสำหรับ YARIS ATIV ได้มีการแนะนำลงสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2560 และมียอดขายสะสมรวมกว่า 280,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน (ข้อมูลยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือน ระหว่างสิงหาคม 2560 – กรกฎาคม 2568)
ขณะที่ YARIS ATIV HEV ใหม่ ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้อยู่ที่ 20,000 คัน ในปีแรก กับทางเลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น HEV Premium และรุ่น HEV GR Sport ราคาอยู่ที่ 719,000-769,000 บาท ซึ่งเป็นราคาพิเศษช่วงแนะนำจนถึงสิ้นปี 2568
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ลงสู่ตลาดเพิ่มอีกเพื่อกระตุ้นตลาดและรักษาระดับยอดขายไว้ในทุกเซกเมนต์
