“สงครามราคา” โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนานหลายปีแม้ว่าจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคในแง่ของการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่มุมผู้ประกอบการนั้นอาจะไม่ส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (MG) กล่าวว่า อยากเสนอให้รัฐบาลมีการพิจารณามาตรการการควบคุมการลดราคาหรือการทุ่มตลาดจากผู้ประกอบการรถยนต์ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงการเข้าไปตรวจสอบต้นทุนการผลิตและการตั้งราคาจำหน่าย สำหรับผู้ประกอบการที่ลดราคาขายอย่างรุนแรงจนกระทั่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยรายอื่นซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย
ทั้งนี้ อยากให้ผู้ประกอบการที่เป็นผู้เริ่มต้นการทำสงครามราคาหยุดพฤติกรรมดังกล่าวได้แล้วรวมถึงผู้ที่กำลังจะทำการทุ่มตลาดลดราคาอย่างรุนแรงให้พิจารณาไตร่ตรองให้ดี ไม่เช่นนั้นตลาดรถยนต์ไทยจะได้รับผลกระทบในภาพรวม ซึ่งหวังว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดในปี 2569
“เอ็มจี ยินดีร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการให้ความร่วมมือการตรวจสอบต้นทุนและราคาจำหน่ายของบริษัท เพื่อเป็นตัวอย่างและป้องกันไม่ให้สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น”
สำหรับยอดขายบริษัท 10 เดือน (มกราคม–ตุลาคม) ของปี 2568 อยู่ที่ราว 20,000 คัน ซึ่งคาดว่าทั้งปีนี้จะสามารถบรรลุเป้าหมายยอดขายได้ 25,000 คัน ขณะที่ภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทย 10 เดือน มีอัตราเติบโตราว 3% และทั้งปีคาดว่าจะปิดตัวเลขยอดขายรวมของตลาดอยู่ที่ 6 แสนคัน หรือเติบโตขึ้น 3-4% โดยถือว่าเป็นอัตราเติบโตที่ดีแม้จะมีอัตราที่น้อยก็ตาม
ขณะที่ ในปีนี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยคาดว่าจะมีตัวเลขอยู่ที่มากกว่า 1 แสนคันอย่างแน่นอน จากการที่รัฐบาลมีมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อนำไปสู่นโยบายในภาพใหญ่ 30@30 จึงทำให้เกิดสงครามราคาแบบไม่คาดคิดซึ่งก็ทำให้ตลาดมีปริมาณที่เติบโตขึ้นไวโดยในปี 2569 คาดว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะอยู่ที่ 1.2 แสนคัน
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2569 ยังไม่มีสัญญาณบวกอย่างชัดเจน ต้องรอดูว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรและจะมีการสนับสนุนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างไร โดยรัฐบาลจะต้องระมัดระวังในการส่งเสริมอุตสาหกรรมให้มีความแข็งแกร่งในการเติบโตระยะยาว ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลที่ผ่านมารวมถึงรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะมีน่าจะเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจและโจทย์ต่าง ๆ ของประเทศที่ต้องแก้ไข เพื่อแก้ปัญหาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับการผลิตชดเชยรถยนต์ไฟฟ้าในโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 ของบริษัทปัจจุบันต้องมีการผลิตชดเชยในส่วนที่เหลือจำนวนไม่มาก ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการผ่อนผันของรัฐบาลที่มีให้แก่ผู้ประกอบการ
