ในการแข่งขัน เอเชีย ครอส คันทรี แรลลี่ 2025 (Asia Cross Country Rally 2025) หรือ AXCR 2025 ซึ่งจัดขึ้นที่ พัทยา ประเทศไทย ฟอร์ด ประเทศไทย ซึ่งร่วมกับ ฟีลลิค อินโนเวชัน มอเตอร์สปอร์ต ได้ส่ง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ (Ford Ranger Raptor) จำนวน 2 คันลงแข่งขัน
Autolifethailand ได้ร่วมสัมภาษณ์พิเศษ “ไมเคิล ฟรีแมน” (Michael Freeman) ผู้อำนวยการและนักแข่ง ทีมฟีลลิค อินโนเวชัน มอเตอร์สปอร์ต ซึ่งได้สะท้อนมุมมองของการส่งรถลงแข่งในสาย “ทางฝุ่น” ย้อนกลับไปในช่วงปี 2566 จนถึงปัจจุบัน ที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ Ford Ranger Raptor ที่เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มรถสมรรถนะสูง (ไฮเพอร์ฟอร์มานซ์)
ดังนั้นเอง ฟอร์ด จึงได้ให้ความสำคัญกับ มอเตอร์สปอร์ต โดยได้ทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานตั้งแต่โรงงาน ฟอร์ด แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย (FTM), ฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ (Ford Performance) และ ฟอร์ด ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม (Ford Thailand Racing Team) ซึ่งบุคลากรของทีมมอเตอร์สปอร์ตนั้นกว่า 95% เป็นคนไทย ตั้งแต่ ทีมเซอร์วิส, ทีมช่างเทคนิค, ผู้นำทาง (เนวิเกเตอร์) ยกเว้นก็แต่ นักขับ 2 คน จาก 2 คันที่เป็นชาวต่างชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รู้จัก Ford Ranger Raptor ในสนามออฟโรดก่อนสู้ศึก Asia Cross Country Rally 2025
นั่นหมายความว่า ฟอร์ด ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย ที่มีศักยภาพสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก โดยนับตั้งแต่จุดเริ่มต้น 2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงทดลองในปีแรก ผ่านไปในปีถัดมาคือเริ่มเดิน จนกระทั่งถึงในปีนี้พร้อมที่จะวิ่งแล้ว ซึ่งคาดหวังที่จะไปถึงจุดหมายสูงสุดคือมีตำแหน่งใน “โพเดียม” อย่างแน่นอน
สำหรับในฤดูกาลปี 2568 นี้ ได้นักแข่งสัญชาติอเมริกันอย่าง เบลีย์ โคล (Bailey Cole) ทีมฟีลลิค อินโนเวชัน มอเตอร์สปอร์ต เข้าเสริมทัพ ที่ปัจจุบันขับรถแข่ง ฟอร์ด บรองโก ของ ทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ มีประสบการณ์การแข่งขันมากว่า 10 ปี ในรายการแข่งขันออฟโรดหลายประเภท
ด้าน “รถแข่ง” ที่ใช้ในการแข่งขันครั้งนี้คือ Ford Ranger Raptor ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ออกมาจากโชว์รูมเช่นเดียวกันกับที่ลูกค้าของฟอร์ดได้รับและนำไปใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่มีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการแข่งขันและอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม อาทิ โรลบาร์, เบาะที่นั่งสำหรับการแข่งขัน, แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ, ถังดับเพลิง เป็นต้น
ส่วนสำคัญหลักของตัวรถอย่าง เครื่องยนต์ ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ และ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ, โหมดการขับขี่ต่าง ๆ และ โช้กอัพ FOX เป็นแบบเดียวกับรถที่จำหน่ายอยู่ในโชว์รูม อาจมีการปรับจูนเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับกติกาการแข่งขัน
ไมเคิล ฟรีแมน ยอมรับว่า หากเมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกันของการแข่งขัน ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ อาจมีน้ำหนักตัวรถเยอะกว่า เครื่องยนต์อาจจะเล็กกว่า ก็จริง! แต่ในเรื่องของเทคโนโลยีการขับเคลื่อนและช่วงล่าง FOX ที่เป็น DNA ของ ฟอร์ด ซึ่งมีการพัฒนามาอย่างยาวนาน ทำให้ยังคงความได้เปรียบในการแข่งขัน
“รถที่เร็วกว่า แรงกว่า อาจะไม่ได้หมายความว่าจะชนะเสมอไป แต่การวางแผนร่วมกันของทีมและความทนทานของเทคโนโลยีต่างหากที่จะทำให้เราสามารถคว้าชัยชนะได้”
นอกจากนั้น อุปกรณ์หลายอย่างที่ติดตั้งเพิ่มเติมและของเหลวที่อยู่ในตัวรถ ยังเป็นสินค้าที่มีจำหน่ายในศูนย์จำหน่ายและบริการ (โชว์รูม) ของฟอร์ด ดังนั้นอะไรที่ ฟอร์ด ขายอยู่ในโชว์รูม ทีม ฟอร์ด เรซซิ่ง ทีม ไทยแลนด์ ก็เอามาใช้ในสนามเช่นเดียวกัน ซึ่งสะท้อน DNA ของการพัฒนาสมรรถนะและประสิทธิภาพที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่ว่าจะอยู่ในสนามแข่งหรือในชีวิตประจำวัน