instax WIDE Evo (WIDE Evo) กล้อง WIDE Evo ที่ช่วยตอกย้ำความสำเร็จจากรุ่น mini Evo โดยคราวนี้รองรับฟิล์มขนาด WIDE ซึ่งให้ภาพกว้างเป็นสองเท่าของขนาดนามบัตร มาพร้อมจอ LCD ด้านหลังที่ช่วยให้ผู้ใช้เลือกภาพโปรดก่อนพิมพ์ได้ตามใจชอบ แถมยังใช้เป็นสมาร์ตโฟนปรินเตอร์ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังสนุกกับการถ่ายภาพมากกว่าเดิมด้วยเอฟเฟกต์เลนส์ 10 แบบ รวมถึง “Magenta” และ “Monochrome” และเอฟเฟกต์ฟิล์มอีก 10 แบบ อย่าง “Light Leak” และ “Color Gradient” ที่นำมาใช้ร่วมกันได้เป็น “100 รูปแบบของการถ่ายภาพ” รวมทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่ “ควบคุมระดับของเอฟเฟกต์” ซึ่งเป็นครั้งแรกในกลุ่ม instax ให้ผู้ใช้ปรับแต่งความเข้มของแสงและการไล่เฉดสีได้ละเอียดถึง 100 ระดับ
นั่นยังไม่นับรวมลูกเล่นให้ภาพปรินต์ด้วยโหมด “รูปแบบฟิล์ม” ที่เพิ่มกรอบภาพสวย ๆ ได้ดั่งใจ และยังมี “โหมดมุมกว้าง” ที่ทำให้ทุกช็อตกว้างจุใจกว่าที่เคย ซึ่งถ้าใช้ครบทุกฟีเจอร์จะสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้มากถึง 120,000 รูปแบบ ทำให้ทุกช็อตเป็นเอกลักษณ์ ตามคอนเซปต์ ‘make every shot a masterpiece’
กล้อง instax WIDE Evo โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรู ผสานโทนสีดำเข้ากับวัสดุเมทัลลิกได้อย่างลงตัว ให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินไปกับการใช้งานสไตล์อนาล็อก ไม่ว่าจะเป็นการหมุนปรับเอฟเฟกต์ด้วยแป้นหมุนต่าง ๆ หรือการหมุน “คันโยกปรินต์” ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ฟูจิฟิล์มยังได้วางจำหน่ายเคสกล้องสีดำที่แมตช์กับตัวกล้อง WIDE Evo และฟิล์มขนาด WIDE ลาย “BRUSHED METALLICS” ที่โดดเด่นด้วยลวดลายไล่ระดับสีและพื้นผิวแบบเมทัลลิกไม่เหมือนใคร
instax WIDE Evo (WIDE Evo) สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันพิเศษที่มีฟังก์ชัน “Discover Feed” ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์แนวทางใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพ ด้วยการรวบรวมภาพปรินต์ instax จากผู้ใช้ WIDE Evo ทั่วโลกที่แชร์ลงโซเชียลมีเดีย พร้อมแสดงการผสมผสานเอฟเฟกต์ที่ใช้ในแต่ละภาพ และผู้ใช้สามารถกดบันทึกเอฟเฟกต์จากภาพที่ชื่นชอบใน “Discover Feed” และนำการตั้งค่าเอฟเฟกต์เหล่านั้นมาใช้กับ WIDE Evo ของตัวเองด้วยการเชื่อมต่อบลูทูธผ่านแอปได้ทันที
กล้อง instax WIDE Evo จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ในราคา 12,990 บาท ผ่านช่องทางจำหน่ายของฟูจิฟิล์มและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ