บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เผยโฉม Honda Super-ONE รถยนต์ Compact EV ต้นแบบ เป็นครั้งแรกในโลก ในงาน Japan Mobility Show 2025 โดยได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “e: Dash BOOSTER” ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่ออกแบบมาเพื่อเดินทางในชีวิตประจำวัน โดยชื่อ Super-ONE สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของฮอนด้าที่จะสร้างยนตรกรรมที่ก้าวข้ามขีดจำกัดและมาตรฐานแบบเดิม ๆ (“super”) พร้อมส่งมอบคุณค่าอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะจากฮอนด้า (“one and only”) ให้กับลูกค้า
นอกจากนั้น Super-ONE รถยนต์ Compact EV ต้นแบบ ยังมุ่งเน้นประสบการณ์ด้านความสนุกในการขับขี่ (fun of driving) อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า โดยยังมาพร้อมฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพื่อมอบความสนุกในการขับขี่ให้ความรู้สึกสปอร์ตที่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดจะสามารถทำได้
ขณะที่ รถยนต์ต้นแบบ มาพร้อมแพลตฟอร์มน้ำหนักเบาที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากรถในกลุ่ม N Series ให้การขับขี่ที่คล่องตัวและสปอร์ตอีกทั้งช่วงล่างที่กว้างและระยะฐานล้อที่ขยายออกไปมาพร้อมซุ้มล้อโป่งนูนที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรุ่นนี้

Honda Super-ONE ได้ผ่านการทดสอบบนพื้นผิวถนนที่หลากหลายอย่างครอบคลุม ภายใต้สภาพอากาศที่แตกต่างกัน ทั้งในประเทศญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ ทั่วทวีปเอเชีย เพื่อพัฒนาสมรรถนะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น โดยในเดือนกรกฎาคม 2568 รถยนต์ต้นแบบ Super EV Concept ซึ่งเป็นโมเดลแนวคิดต้นกำเนิดของรถยนต์ต้นแบบ Super-ONE ได้ถูกนำไปจัดแสดงและร่วมการขับขี่เชิงไดนามิก ในงาน Goodwood Festival of Speed 2025 ณ เวสต์ซัสเซกซ์ สหราชอาณาจักร
Honda มีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นผลิตจริงที่พัฒนาต่อยอดจากรถยนต์ต้นแบบ Super-ONE ในประเทศญี่ปุ่นในปี 2569 เป็นต้นไป ตามด้วยภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีความต้องการต่อรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด เช่น สหราชอาณาจักร และประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย

การออกแบบภายนอกได้มีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์โดยเฉพาะสำหรับรุ่นนี้ มาพร้อมช่องระบายอากาศด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของอากาศ และระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมผสมผสานระหว่างฟังก์ชันที่รองรับสมรรถนะการขับขี่ให้เข้ากับความงามที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัว
ด้านภายในห้องโดยสารมาพร้อมเบาะนั่งสไตล์สปอร์ตได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์รุ่นนี้ โดยจะโอบกระชับลำตัวของผู้ขับขี่เพื่อให้ได้ตำแหน่งและท่าทางการขับขี่ที่นิ่งและมั่นใจ ทั้งนี้การเลือกวัสดุพื้นผิวสีฟ้าและออกในลักษณะ Asymmetric Layout ยังช่วยเพิ่มลูกเล่นที่สนุกสนานให้ห้องโดยสารอย่างมีสไตล์ รวมถึงการออกแบบแผงหน้าปัดในแนวระนาบ ยังช่วยลดสิ่งรบกวนสายตาให้ทัศนวิสัยที่ชัดเจน

Super-ONE มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ Boost Mode ซึ่งพัฒนาขึ้นพิเศษโดยเฉพาะสำหรับรุ่นนี้ เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ตื่นเต้นเร้าใจยิ่งขึ้น โดย Boost Mode จะช่วยเพิ่มกำลังขับเคลื่อนให้มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถปลดปล่อยสมรรถนะได้อย่างเต็มที่ โดยระบบจะผสานการทำงานระบบเกียร์จำลองแบบ 7 สปีด ซึ่งจะถ่ายทอดความรู้สึกในการเปลี่ยนเกียร์เสมือนรถยนต์ที่ใช้ระบบเกียร์หลายจังหวะแบบดั้งเดิม เข้ากับระบบ Active Sound Control ที่สร้างเสียงเครื่องยนต์เสมือนจริงภายในห้องโดยสารตามการเหยียบคันเร่งและเบรก มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจราวกับอยู่หลังพวงมาลัยของรถสปอร์ตที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป แต่ยังคงความโดดเด่นของรถยนต์ไฟฟ้าไว้ด้วย
นอกจากนี้ Boost Mode ยังมีการตั้งค่าพิเศษสำหรับฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น มาตรวัดแบบสามช่อง และการปรับเปลี่ยนโทนแสงภายในห้องโดยสาร ทั้งหมดนี้ทำให้รถยนต์ต้นแบบ Super-ONE สามารถกระตุ้นความรู้สึกของผู้ขับขี่ได้ครบทุกประสาทสัมผัส ทั้งการมองเห็น การได้ยิน รวมถึงความรู้สึกด้านสัมผัสจากการเร่งความเร็วและการสั่นสะเทือน เพื่อความสนุกในการขับขี่





