GWM ลั่นประเทศไทยยังคงสำคัญกับ GWM ทั้งตลาดในประเทศ และเป็นผู้ผลิตรถยนต์ GWM พวงมาลัยขวาส่งออกทั่วโลก ย้ำรู้ปัญหาในไทย และเร่งแก้ในทุกจุด ตั้งแต่เปิดตัวสินค้าใหม่ที่เหมาะสม ปรับโครงสร้างราคาสินค้าใหม่ให้ลูกค้าเข้าถึงมากขึ้น ศึกษาผลดีผลเสียของนโยบายราคาแบบ one price policy ว่าเป็นอย่างไรรวมถึงปรับโครงสร้างบริหารงานภายในองค์กร GWM Thailand ใหม่ให้มีความคล่องตัวมากขึ้นกว่าปัจจุบัน
autolifethailand.tv ได้มีโอกาสได้สัมภาษณ์ Mr.Parker Shi President of international GWM Motor เกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดในประเทศไทย และแผนการทำตลาดในอนาคตของ GWM ในประเทศไทย ว่าจะเดินหน้าอย่างไร หลังจากที่ยอดขายรถยนต์ GWM ในประเทศไทย ตกลงอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขาย 8 เดือนที่ผ่านมา GWM มียอดขายในประเทศไทยเพียง 4,799 คันเท่านั้น
“เรายืนยันว่าประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่สำคัญอย่างมากสำหรับ GWM และจะยังคงเดินหน้าทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และเป็นการทำตลาดในระยะยาวไม่ใช่แค่มองตัวเลขในระยะสั้นเท่านั้น”
นั่นคือตำพูดแรกของ Big Boss อันดับ 3 ของ GWM Motor ที่ให้สัมภาษณ๋กับสื่อของประเทศไทย นั่นหมายความว่าทาง บริษัทแม่รู้ความเป็นไปของตลาดในบ้านเราไม่น้อย และพร้อมให้คำอธิบายกับเรา
“ถ้าผมให้ความสำคัญกับตัวเลขยอดขายในวันนี้ ผมต้อง “ฆ่าทีมงานสักคน” ที่มาในวันนี้อย่างแน่นอน เพราะตัวเลขยอดขายเดือนละ 300-400 คันต่อเดือนไม่ใช่ตัวเลขที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับพนักงานของ GWM ในไทยที่มีอยู่กว่า 1,000 คน ซึ่งตัวเลขยอดขายที่ถูกต้องควรจะต้องอยู่ในระดับ 1,000 คันต่อเดือน แต่ผมมองเรื่องนี้ในระยะยาว เพราะ I dont care the number now เรามองการทำงานในประเทศไทยในระยะยาว ที่ต้องมีการแก้ปัญหาต่อไป”
ในวันนี้ GWM Thailand ต้องมีการปรับกระบวนทัพการทำงานใหม่ ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ที่ให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่าของแบรนด์ GWM ต้องให้ลูกค้าได้มาสัมผัสสินค้าของ GWM ว่าเหมาะสมกับตัวเองอย่างไร โดยเขาเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคชาวไทย ว่าเป็นอย่างไร การซื้อรถแบรนด์จีนในวันนี้ ต้องฝ่าความยากลำบากไม่น้อย ทั้งจากความเชื่อมั่นของตัวลูกค้า ทั้งจากครอบครัว และเพื่อนฝูง ดังนั้นการทำให้ลูกค้าได้มีโอกาสมาลองขับรถยนต์ของ GWM คือส่ิงที่ต้องทำ
นอกจากนี้ ด้วยสถานการณ์การแข่งขันที่ดุเดือดในปัจจุบัน ทั้งจากแบรนด์จีนด้วยกันเอง และจากแบรนด์ญี่ปุ่นได้ แตกต่างไปจากการแข่งขันเมื่อหลายปีก่อนที่ GWM ได้เข้ามาประเทศไทย ทำให้ตัวเลขการขายไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ รวมถึงตัว Product ที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทย ก็ต้องมีการพิจารณาใหม่ ว่าจะทำอย่างไรให้มีความน่าสนใจ รวมถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ในอนาคต เพื่อกระตุ้นยอดขาย
“ในปีหน้าเรามีแผนจะเปิดตัวสินค้าใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รถไฟฟ้าในกลุ่ม B-SUV จำนวน 1 รุ่น และเปิดตัว Haval H6 Phev ไมเนอร์เชนจ์อีก 1 รุ่น”
อย่างไรก็ตามเท่าที่ autolifethailand.tv ทราบมาทาง GWM ยังมีแผนปรับปรุงผลิตภัณฑ์รถยนต์ที่จำหน่ายอยู่อีกไม่ว่าจะเป็น Jolion Sport ที่จะมีการปรับปรุง option เพื่อปรับราคาให้เหมาะสม และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มทางเลือกด้านเครื่องยนต์ให้กับ TANK300 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล
นอกจากนี้ Mr.Parker ยังพูดถึงการปรับปรุงโครงสร้างราคารถยนต์ของ GWM ในไทยใหม่ ว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในการศึกษา เพราะการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น โดยเฉพาะค่ายรถยนต์จากจีนเองที่ลดราคาอย่างมาก ซึ่ง Mr.Parker บอกว่าการทำตลาดแบบนี้เป็นการทำตลาดแบบ “ฆ่าตัวตาย” ซึ่ง GWM จะไม่ทำเช่นนั้น เพราะเขาเชื่อว่าการทำตลาดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องในระยะยาว และไม่เชื่อว่าแบรนด์จีนทุกแบรนด์รวมถึงแบรนด์ทึ่ลดราคาก็ไม่ได้รู้สึกดี ที่ทำเช่นนั้น แต่ทุกคนทำเพื่อความอยู่รอด
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างราคาใหม่ และการปรับลดราคาของ GWM ในวันนี้ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแข่งขันในปัจจุบัน รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยที่ชะลออย่างมากด้วย ทำให้ GWM ต้องปรับตัวตาม
รวมถึงการปรับโครงสร้างภายในองค์กรของ GWM Thailand ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแข่งขันในวันนี้ และต้องเข้าใจพฤติกรรมการซื้อรถยนต์ของลูกค้าชาวไทยด้วย
และศึกษา ผลดีผลเสียของกลยุทธ์การตั้งราคาแบบ one price policy ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งกลยุทธ์การทำตลาดราคาเดียวนั้น ก็มี 2 มุม ทั้งข้อดี และข้อเสีย โดยข้อดี คือตัวแทนจำหน่ายไม่ต้องกังวลในเรื่องสต็อกรถยนต์ และจะได้มีเวลาไปให้ความสำคัญในเรื่องการบริการลูกค้า และที่าสำคัญคือ กลยุทธ์ราคาเดียวนี้ สามารถรักษาราคาของรถยนต์มือ 2 ของ GWM ได้ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
แต่กลยุทธ์นี้ ก็มีจุดอ่อนในเรื่องของการขายที่ไม่สามารถกระตุ้นความสนใจของลูกค้าได้เช่นกัน โดยในปัจจุบัน ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเปลี่ยนกลยุทธ์การตั้งราคาหรือไม่
“เรา GWM พร้อมแข่งขันกับทุกแบรนด์ในตลาดต่างประเทศ ไม่ใช่แค่ที่ประเทศไทยเท่านั้น โดยปัญหาที่ GWM เจออยู่ในไทยขณะนี้ ก็เจอเหมือนกับทุกตลาดที่บุกไป ดังนั้นแผนการแก้ปัญหาในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวของเรา แต่เรามั่นใจว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ GWM ให้ความสำคัญและเราย้ำว่าเราจะเดินหน้าต่อไปในไทย เพราะเรามีแผนขยายการลงทุนในโรงงานประเทศไทยด้วย”
นั่นคือส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ของ Mr.Parker บิ๊กบอส ที่ดูแลตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวาทั่วโลกของ GWM MOTOR ซึ่งก็น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าชาวไทยได้ไม่มากก็น้อย
แต่สุดท้ายเราต้อง รอชม การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ว่าจะทำให้ GWM Thailand เติบโตไปได้มากน้อยเพียงใด แต่ที่แน่ๆ คือ GWM MOTOR เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในไทยว่า “ไม่ได้เป็นอย่างที่บริษัทแม่คิด”
“การรับฟัง” คือหนึ่งในทางแก้ปัญหาของ GWM Thailand!!
