Ford EVEREST Wildtrak ครั้งแรกการตกแต่ง Wildtrak บนตัวถัง EVEREST เปิดตัวแล้วที่นิวซีแลนด์ เมื่อ 20 มกราคม 2023 ที่ผ่านมา ติดตั้งเครื่องยนต์ ดีเซล V6 3.0 Turbo และ ดีเซล 2.0 Bi-Turbo
ล่าสุด Ford ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว EVEREST Wildtrak อย่างเป็นทางการที่งาน Motor Show 2023 ! วันที่ 21 มีนาคม นี้ @ Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี โดย Everest Wildtrak จะวางตัวเป็นรุ่น Top of the line หรือ รุ่นท้อปสุดของ Everest ที่ทำตลาดในประเทศไทย
Engine เครื่องยนต์
ดีเซล 2.0 Bi-Turbo DIESEL
เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) พละกำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบ Terrain Management
สีตัวถังภายนอกของ EVEREST Wildtrak มีให้เลือก 6 สี
- สีดำ Absolute Black
- สีเงิน Aluminium
- สีเทา Meteor Grey
- สีขาวมุก Arctic White (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
- สีส้มเหลือง Luxe Yellow (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
- สีส้มแดง Sedona Orange (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
ราคาอย่างเป็นทางการ
ดีเซล 2.0 Turbo
- 2.0 Trend 6AT 2WD 1,354,000 บาท
- 2.0 Turbo Sport 6AT 2WD 1,484,000 บาท
- 2.0 Turbo Sport 6AT 2WD + Option Pack A 1,544,000 บาท
ดีเซล 2.0 Bi-Turbo
- 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 10AT 2WD 1,724,000 บาท
- 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 10AT 4WD 1,874,000 บาท
- 2.0 Bi-Turbo Wildtrak 10AT 4WD 1,xxx,000 บาท (NEW)
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
* Ford Everest Titanium+
Dimension มิติตัวถัง
All NEW Everest
- ยาว 4,914 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,923 มิลลิเมตร
- สูง 1,842 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,900 มิลลิเมตร
Everest รุ่นเดิม
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,903 x 1,869 x 1,837 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,850 มิลลิเมตร
เมื่อเทียบกับ Everest รุ่นเดิม พบว่า All NEW Everest ยาวขึ้น 11 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 54 มิลลิเมตร สูงขึ้น 5 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อ ยาวขึ้น 50 มิลลิเมตร
* Ford Everest Titanium+
Engine เครื่องยนต์
2.0 Turbo DIESEL
เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ พละกำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง
* ปรับจูนเครื่องยนต์จาก 180 แรงม้า เหลือ 170 แรงม้า เปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ เหลือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
2.0 Bi-Turbo DIESEL
เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) พละกำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time 4WD พร้อมโหมด Terrain Management
* ปรับจูนเครื่องยนต์จาก 213 แรงม้า เหลือ 210 แรงม้า ปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นแบบ Part-time 4WD พร้อมโหมด Terrain Management
TREND 2.0 Turbo 6AT 2WD 1,354,000 บาท
อุปกรณ์มาตรฐาน
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 เทอร์โบ 170 แรงม้า 405 นิวตันเมตร
- เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมระบบ Select Shift
- ขับเคลื่อนล้อหลัง 2WD
- ฟังก์ชั่น Terrain Management System 4 รูปแบบ
- Normal
- Eco
- Tow/Haul
- Slippery
- ช่วงล่าง
- ด้านหน้า Double Wishbone พร้อมคอยล์สปริง และ เหล็กกันโคลง
- ด้านหลัง Watt’s Link พร้อมคอยล์สปริง และ เหล็กกันโคลง
- ระบบเบรก
- ด้านหน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
- ด้านหลัง ดิสก์เบรก
- ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ LED
- ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
- ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED C-Clamp
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED
Interior ภายในห้องโดยสาร
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีดำ
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
- ชุดมาตรวัดแบบ Digital แบบสี ขนาด 8.0 นิ้ว
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
- ระบบปรับอากาศ สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- ช่องชาร์จไฟ 12V 3 ตำแหน่ง
- ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ที่บังแดดคู่หน้า พร้อมที่เสียบนามบัตร และ กระจกฝั่งผู้โดยสารตอนหน้า
Seating เบาะนั่ง
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกอิสระ 60 : 40
- เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับเอนได้
- เบาะนั่งแถวที่ 2 เลื่อนหน้า-ถอยหลังได้
- เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกอิสระ 50 : 50
Entertainment ระบบความบันเทิง
- หน้าจอกลาง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 10.1 นิ้ว
- รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless
- ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A
- ระบบ FordPass Connect
- ช่องเชื่อมต่อ USB 4 ตำแหน่ง
- ลำโพง 8 ตำแหน่ง
Safety ระบบความปลอดภัย
- ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
- ระบบกระจายแรงเบรก EBD
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HLA
- ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assistant
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-หัวเข่าคนขับ)
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด
- เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า และ ด้านหลัง
* Ford Everest Titanium+
SPORT 2.0 Turbo 6AT 2WD 1,484,000 บาท
สิ่งที่เพิ่มจากรุ่น Everest 2.0 Trend +130,000 บาท มีดังนี้
- ล้ออัลลอย สีดำ Black ขนาด 20 นิ้ว
- ยาง ขนาด 255/55 R20
- ไฟท้ายแบบ LED
- ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
- ฝาท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
- ฝาท้ายเปิดปิดโดยไม่ต้องใช้มือ Hands-Free Tailgate
- มือเปิดประตูภายนอก สีดำเงา Glossy Black
- กระจกมองข้าง สีดำเงา Glossy Black
- ชุดตกแต่งภายนอก สีดำสปอร์ต Sport Exterior
- ตัวอักษร EVEREST สีดำเงา Glossy Black ติดบนฝากระโปรงหน้า
- ชุดตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีดำสปอร์ต
- ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า แบบ USB บนกระจกมองหลัง
- กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีดำ ลายสปอร์ต Sport Embossed
- เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- ที่บังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้า และ ไฟส่องสว่าง คนขับ และ ผู้โดยสารตอนหน้า
- ช่องเชื่อมต่อไฟ 12V บริเวณเบาะนั่งแถวที่ 3
- ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง บริเวณเบาะนั่งแถวที่ 2
* Ford Everest Sport
SPORT 2.0 Turbo 6AT 2WD + Option Pack A 1,544,000 บาท
สิ่งที่เพิ่มจากรุ่น Everest 2.0 Sport +60,000 บาท มีดังนี้
(ครั้งแรกที่สามารถสั่งเพิ่ม Option Pack A ระบบความปลอดภัยให้เทียบเท่ารุ่น Titanium+ ได้)
- อัพเกรด มาตรวัด Digital จาก 8.0 นิ้ว เป็น Full Digital 12.4 นิ้ว
- อัพเกรด หน้าจอกลาง Touchscreen ระบบ Multi-touch จาก 10.1 เป็น 12.0 นิ้ว
- เพิ่ม ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่าง Adaptive Cruise Control พร้อมระบบ Stop & Go
- เพิ่ม ระบบเปิด-ปิดไฟสูง อัจฉริยะ Auto HighBeams
- เพิ่ม ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ พร้อมตรวจจับคนเดินถนน AEB
- เพิ่ม ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning
- เพิ่ม ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน Post-Impact Braking
- เพิ่ม ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist
- เพิ่ม ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
- เพิ่ม ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information
- เพิ่ม ระบบตรวจจับรถขณะก่อนออกจากช่อง Cross Traffic Alert
- เพิ่ม ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา
- เพิ่ม ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง Reverse Brake Assist
- เพิ่ม ระบบช่วยหักพวงมาลัย เพื่อเลื่องการปะทะ Evasive Steering Assist
TITANIUM+ 2.0 Bi-Turbo 10AT 2WD 1,724,000 บาท
สิ่งที่แตกต่างจากรุ่น Sport 2WD +240,000 บาท มีดังนี้
- เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 Bi-Turbo 210 แรงม้า 500 นิวตันเมตร
- เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
- ล้ออัลลอย สี Chrome ขนาด 20 นิ้ว
- หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
- วัสดุตกแต่งภายนอก แบบโครเมียม
- ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ Puddle Lamps
- มาตรวัด Full Digital แบบสี ขนาด 12.4 นิ้ว
- เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง แบบ Titanium+d
- เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับ-พับ ด้วยระบบไฟฟ้า
- ช่องชาร์จไฟ AC 230V 1 ตำแหน่ง
- หน้าจอกลางระบบ Touchscreen ระบบ Multi-touch ขนาด 12.0 นิ้ว
- ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Lighting
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา HDC
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูง อัจฉริยะ Auto HighBeams
- ระบบตรวจจับลมยาง Tire Pressure Monitoring
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่าง Adaptive Cruise Control พร้อมระบบ Stop & Go
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง Lane Centering
- ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ พร้อมตรวจจับคนเดินถนน AEB
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning
- ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน Post-Impact Braking
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Warning
- ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information
- ระบบตรวจจับรถขณะก่อนออกจากช่อง Cross Traffic Alert
- ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง Reverse Brake Assist
- ระบบช่วยหักพวงมาลัย เพื่อเลื่องการปะทะ Evasive Steering Assist
- ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา
* Ford Everest Titanium+
TITANIUM+ 2.0 Bi-Turbo 10AT 4WD 1,874,000 บาท
สิ่งที่แตกต่างจากรุ่น Titanium+ 2WD +150,000 บาท มีดังนี้
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-time 4WD
- คันเกียร์อัตโนมัติแบบ Electronic e-Shifter
- ระบบดิฟล็อคหลังแบบไฟฟ้า Electronic Locking Rear Differential
- ฟังก์ชั่น Terrain Management System 6 รูปแบบ
- Normal
- Eco
- Tow/Haul
- Slippery
- Mud/Ruts
- Sand
- ไฟหน้าแบบ Matrix LED
- ระบบปรับลำมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติ Adaptive Front Lighting System
- ระบบป้องกันไฟแยงตา Adaptive Glare-Free
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Active Park Assist
Everest Titanium+ 2.0 Bi-Turbo 10AT 4WD สามารถสั่งซื้อเพิ่มเติมได้
- เพิ่ม ชุดแผ่นโลหะกันกระแทกใต้ท้องรถ + 5,000 บาท
- เปลี่ยน เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง เป็นสีครีม Parline + 10,000 บาท
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 7 สี
- สีเงิน Aluminum
- สีเทา Meteor Grey
- สีดำ Absolute Black
- สีน้ำตาล Equinox Bronze
- สีน้ำเงิน Blue Lightning (เฉพาะรุ่น Sport เท่านั้น)
- สีส้ม Sedona Orange (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
- สีขาว Snowflake White Pearl (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)