ผ่านการชิงชัยในสเตจที่ 9 ดาการ์ แรลลี่ ยังคงเป็น คาร์ลอส ซายนซ์ นักขับจอมเก๋า สังกัด Team Audi Sport ที่รั้งจ่าฝูงบนตารางเวลารวม ครองความได้เปรียบเหนือ เซบาสเตียน โล้บ จาก Bahrain Raid Xtreme ถึง 20 นาที ขณะที่ ริคกี้ บราเบ็ค ดาวบิดสังกัด Monster Energy Honda Team ยังนำในประเภทรถจักรยานยนต์
เกมครอสคันทรี่หฤโหด ดาการ์ แรลลี่ 2024 เข้าสู่การแข่งขันในสเตจที่ 9 ใช้เส้นทางชิงชัยระหว่าง ฮาอิล-อัลลูล่า ระยะทางทั้งสิ้น 639 กิโลเมตร แบ่งเป็นช่วงทดสอบพิเศษ 417 กิโลเมตร และการเดินทาง 222 กิโลเมตร ดวลความเร็วในวันอังคาร ที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา
และเป็นทางด้าน เซบาสเตียน โล้บ ดาวขับเฟรนช์ สังกัด Bahrain Raid Xtreme ที่ควบ Prodrive Hunter T1+ คว้าแชมป์ในสเตจดังกล่าวไปครอง หลังซิ่งจบการแข่งขันด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 17 นาที 33 วินาที เร็วกว่า คาร์ลอส ซายนซ์ จาก Team Audi Sport ในอันดับ 2 ช้ากว่าแชมป์ 04 นาที 14 วินาที
อย่างไรก็ดี ยังคงเป็น คาร์ลอส ซายนซ์ ดาวขับจอมเก๋าชาวสเปน ที่รั้งจ่าฝูงบนตารางเวลา ด้วยเวลารวม 37 ชั่วโมง 50 นาที 57 วินาที เหนือกว่า เซบาสเตียน โล้บ ที่รั้งอันดับ 2 ถึง 20 นาที 33 วินาที ถัดไปเป็น ลูคัส โมราเอส จาก TOYOTA GAZOO RACING ในอันดับ 3 ตามหลังผู้นำมากกว่า 1 ชั่วโมง
ส่วนในประเภทรถจักรยานยนต์ยังคงไล่บี้กันอย่างสนุก โดย ริคกี้ บาร์เบ็ค จาก Monster Energy Honda Team รั้งจ่าฝูง หลังบิดจบสเตจ 9 ด้วยเวลารวม 40 ชั่วโมง 53 นาที 49 วินาที ตามด้วย รอสส์ บรานช์ สังกัด HERO MOTOSPORTS TEAM RALLY ในอันดับ 2 ตามหลังจ่าฝูง 07 นาที 09 วินาที
ขณะที่ มานูเอล อันดูฮาร์ จาก 7240 TEAM / DRAGON RALLY SERVICE รั้งหัวขบวนประเภทรถควอด เร็วกว่า อเล็กซานเดอร์ ชิรูด์ YAMAHA RACING – SMX – DRAG’ON อยู่ 06 นาที 13 วินาที ด้าน มาร์ติน มาซิค, ฟรานทิเซค โทมาเซค และ เดวิด สวานด้า ทัพนักขับเช็ก จาก MM TECHNOLOGY TEAM ครองจ่าฝูงประเภทรถบรรทุก ทิ้งห่างอันดับ 2 กว่า 2 ชั่วโมง
สำหรับการแข่งขันในสเตจที่ 10 ดวลความเร็วในวันพุธ ที่ 17 มกราคม ใช้เส้นทางชิงชัยภายในเมืองอัลลูล่า รวมระยะทางทั้งสิ้น 612 กิโลเมตร โดยเป็นช่วงทดสอบพิเศษ 371 กิโลเมตร และการเดินทาง 241 กิโลเมตร