All NEW MG 3 Hybrid+ เปิดราคาในไทย สิงหาคม 2024 นี้ ! B-Segment Hybrid เบนซิน 1.5 Hybrid 194 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 km/h ใน 8.0 วินาที ราคาเริ่มต้น 5xx,000 บาท น้ำมัน 1 ถัง วิ่งใช้งานจริงไกลกว่า 800 km. ++ ต่อถัง (หารเฉลี่ยได้ 22.22 km/l)
ราคาคาดการณ์โดย www.autolifethailand.tv
คาดว่าจะมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เปิดราคาอย่างเป็นทางการ สิงหาคม 2024 นี้
- MG 3 Hybrid+ D 5xx,000 บาท
- MG 3 Hybrid+ X
Dimension มิติตัวถัง
MG 3 Hybrid+
- ยาว 4,113 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,797 มิลลิเมตร
- สูง 1,502 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase 2,570 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น 117 มิลลิเมตร
- ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ขนาด 293 ลิตร
- ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร
MG 3 รุ่นเดิม
- ยาว 4,055 x 1,729 x 1,516 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase 2,520 มิลลิเมตร
เทียบกับรุ่นเดิม พบว่า All NEW MG 3 Hybrid+ มีขนาดตัวใหญ่ขึ้นทุกมิติ ยาวขึ้น 58 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร เตี้ยลง 14 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อ ยาวขึ้น 50 มิลลิเมตร
- MG 3 : 4,113 x 1,797 x 1,502 มม. | ฐานล้อ 2,570 มม.
- Honda City : 4,349 x 1,748 x 1,448 มม. | ฐานล้อ 2,589 มม.
- Toyota Yaris : 4,160 x 1,730 x 1,500 มม. | ฐานล้อ 2,550 มม.
- Mazda 2 : 4,080 x 1,695 x 1,515 มม. | ฐานล้อ 2,570 มม.
Engine เครื่องยนต์
เบนซิน 1.5 Hybrid+
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle พละกำลังสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 128 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
เมื่อเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุด 194 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-AT โปรแกรมอัตราทดเกียร์ 3 รูปแบบ แบตเตอรี่ Lithium-ion 1.83 kWh ปล่อย CO2 ที่ 100 g./km.
ตัวเลขเคลมจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 8.0 วินาที
- อัตราเร่ง 80-120 km/h ภายใน 5.0 วินาที
- ความเร็วสูงสุด Top Speed 170 km/h
- น้ำมัน 1 ถัง วิ่งได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร (เฉลี่ยใช้งานจริง 22.22 km/l)
Highlights ของ All NEW MG 3 Hybrid+
Powertrain ระบบขับเคลื่อน
- เน้นการขับขี่ที่สนุกสนาน Fun-to-Drive
- โหมด Hybrid แบ่งการทำงาน : EV / Series / Series&Charge / Drive&Charge / Parallel
- โหมดการขับขี่ Drive Mode มีให้เลือก 3 รูปแบบ : ECO / Standard / Sport
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Brake Hold
- ปุ่มเปลี่ยนเกียร์ E-Shifter Dial
- ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
- ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS
- ช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
- ช่วงล่างหลัง Torsion Beam
- ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และ ดิสก์เบรกหลัง
Exterior ภายนอก
- ไฟหน้า แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
- ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่สาม
- ไฟตัดหมอกหลัง
- ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และพับอัตโนมัติ
- ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมใบปัดน้ำฝนด้านหลัง
- ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว
Interior ภายในห้องโดยสาร
- เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
- เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
- ที่พักแขนกลางระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า
- เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40
- ช่องใส่ของภายในห้องโดยสาร 25 จุด
- หน้าจอคู่ Dual Screen
- มาตรวัด Full Digital ขนาด 7 นิ้ว
- หน้าจอกลาง Touchscreen ขนาด 10.25 นิ้ว
- รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Key
- ปุ่มสตาร์ทระบบ Push Start Button
- ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
- ระบบกรองอากาศ PM 5
- ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
Safety ระบบความปลอดภัย
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ MG Pilot
- กล้อง ADAS : Advanced Driver Assistant System
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
- ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
- ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
- ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
- ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
- ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW (Unsteady Driving Warning)
- ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA (Intelligent Cruise Assist)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
- ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
- กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition
- จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
- สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
- ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
- ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 7 สี ต้องรอลุ้นกันว่า All NEW MG3 Hybrid+ เวอร์ชั่นไทย จะมีสีตัวถังภายนอกให้เลือกกี่สี่
- สีดำ Pebble Black
- สีขาว Dover White
- สีเงิน Cosmic Silver
- สีเหลือง Pastel Yellow
- สีแดง Diamond Red
- สีเทา Hampstead Grey
- สีน้ำเงิน Como Blue
All NEW MG 3 Hybrid+ 194 แรงม้า เปิดราคาในไทย สิงหาคม นี้ ! 2 รุ่นย่อย ราคา 5xx,000 บาท เคลมน้ำมัน 1 ถังวิ่งจริง 800 km.++ ! B-Segment Hybrid เบนซิน 1.5 Hybrid 194 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 km/h ใน 8.0 วินาที
หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน autolifethailand.tv จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ
เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย autolifethailand.tv
MG ประเทศไทย กำลังวิ่งทดสอบ All NEW MG 3 Hybrid+ ทั่วไทย ทุกสภาพอากาศ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา ราวๆ 10,000 กว่ากิโลเมตร ก่อนการเปิดตัวจะมีขึ้นในช่วงเดือน กรกฎาคม 2024 นี้