แคนนอน เปิดตัว Add-On Applications System

สำหรับกล้อง PTZ Remote Camera

แคนนอน (Canon) เปิดตัว Add-On Applications System สำหรับกล้อง PTZ Remote Camera ช่วยให้โอเปอเรเตอร์ยกระดับคุณภาพงานผลิตวิดีโอด้วยฟีเจอร์การทำงานขั้นสูงจากแอปพลิเคชั่นแบบซื้อเพิ่มเติมของแคนนอน โดยวันนี้ระบบนำเสนอ 2 ฟีเจอร์การทำงานใหม่ ทั้งการติดตามอัตโนมัติ (Auto Tracking) และการถ่ายวนลูปอัตโนมัติ (Auto Loop) เพื่อตอบโจทย์ผลิตวิดีโอที่แตกต่างกันและแคนนอนจะทยอยนำเสนอฟีเจอร์อื่น ๆ ต่อไปอย่างต่อเนื่อง

ฟีเจอร์การทำงานใหม่นี้สามารถใช้ได้กับกล้อง PTZ Remote Camera โดยไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ภายนอกอย่างเซิร์ฟเวอร์หรือพีซีเพิ่มเติมพร้อมระบบการทำงานที่ปรับแต่งได้หลากหลายแก่ผู้ใช้งาน ปัจจุบันสามารถใช้ได้กับรุ่น CR-N700 กล้อง PTZ Remote Camera ความละเอียด 4K ระดับไฮเอนด์ของแคนนอน และจะทยอยขยายให้ครอบคลุมกล้อง PTZ Remote Camera รุ่นอื่น ๆ ที่รองรับได้ในอนาคต ฟีเจอร์การทำงานเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อยกระดับขีดความสามารถ ลดภาระงานและกำลังคนในการถ่ายทำวิดีโอระยะไกล และช่วยให้โอเปอเรเตอร์สามารถพุ่งความสนใจไปที่งานสำคัญอื่น ๆ อย่างการสลับกล้องและการส่งมอบคอนเทนต์ที่ต้องการได้มากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์การติดตามอัตโนมัติ (Auto Tracking) ช่วยให้กล้อง PTZ Remote Camera สามารถติดตามจับภาพผู้บรรยายหรือบุคคลหนึ่ง ๆ ได้โดยอัตโนมัติในระหว่างการนำเสนอข้อมูลสินค้า การบรรยายหรือในงานอีเวนต์ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลภาพภายในตัวกล้อง ระบบจะติดตั้งความสามารถการติดตามอันยอดเยี่ยมเพื่อให้ถ่ายได้ด้วยมุมมองอิสระ ทั้งภาพเต็มตัว ครึ่งตัวบน  ซูมเฉพาะช่วงไหล่ ไปจนถึงมุมมองแบบอื่น ๆ โดยสามารถติดตามบุคคลที่เคลื่อนที่ตั้งแต่การเคลื่อนไหวแบบช้า ๆ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว นอกจากการจับภาพบุคคลในมุมมองมาตรฐานซึ่งตามปกติจะใช้ในการถ่ายทอดสดอีเวนต์เชิงพาณิชย์และการบรรยายแล้ว กล้อง PTZ Remote Camera รุ่นนี้ยังติดตั้งกลไกการแพนและทิลต์ประสิทธิภาพสูง จึงสามารถจับภาพการเคลื่อนไหวที่ช้า ๆ ของวัตถุได้อย่างลื่นไหลเพื่อสร้างงานผลิตวิดีโอที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ฟีเจอร์การทำงานยังมีการปรับตั้งค่าอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ Composition Tracking Sensitivity และ Priority Display Area 

ฟีเจอร์การถ่ายวนลูปอัตโนมัติ (Auto Loop) ช่วยให้กล้อง PTZ Remote Camera สามารถหมุนจับภาพทั้งแพน/ทิลต์/ซูม (PTZ) ได้โดยอัตโนมัติซึ่งตามปกติจะต้องทำโดยโอเปอเรเตอร์ในระหว่างการถ่ายทอดสดหรือการถ่ายงานอีเวนต์ เช่น การแข่งขันกีฬาและการสัมภาษณ์ รวมถึงการผลิตภาพยนตร์หรือถ่ายทำโฆษณาทางโทรทัศน์ โดยในระหว่างที่กล้องเคลื่อนไปมาหรือเดินหน้า-ถอยหลังภายในขอบเขตหนึ่ง โอเปอเรเตอร์สามารถปรับค่าพารามิเตอร์ เช่น Position Setting เพื่อระบุช่วงเวลาการหยุด ณ ตำแหน่งนั้น Route Setting เพื่อระบุความเร็วในการเคลื่อน และการทำงานอื่น ๆ ซึ่งรวมถึง Preview และ Start ซึ่งสามารถปรับค่าได้อย่างง่ายดายบนหน้าจอการตั้งค่า นอกจากนี้ โอเปอเรเตอยังสามารถปรับเพื่อเร่งหรือหน่วงความเร็วในการเริ่มหรือหยุดการเคลื่อนกล้องผ่าน Fade Mode ซึ่งช่วยให้กล้องทำงานแบบอัตโนมัติเลียนแบบการทำงานของช่างภาพระดับมืออาชีพ

กำหนดการเปิดใช้งาน

หมายเหตุ:

1. การตั้งค่าต้องทำผ่านเว็บเบราเซอร์บนพีซีของผู้ใช้งาน
2. Add-on Applications System ต้องมีการอัปเดตเฟิร์มแวร์ (เปิดให้ใช้งานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่กลางเดือนเมษายน 2566 เป็นต้นไป)
3. รองรับความเร็วในการเดินที่ 1.8 เมตร/วินาที (ประมาณ 1.0 เมตร/วินาที เมื่อถ่ายทำในมุมซูมเฉพาะช่วงไหล่)

วิเคราะห์ เจาะลึก ทุกข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา กับผม นิธิ ท้วมประถม
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสาร ข่าวรถยนต์ รถใหม่ สกู๊ปพิเศษ ลองขับ อย่าลืมติดตามเรา ช่องยูทูป – auto lifethailand tv

ติดต่อโฆษณา

Project Manager (คุณแอม)
โทร. 089 533 5115

Email : autolifethailand@gmail.com

หรือ Inbox ได้ทาง Facebook Fanpage https://www.facebook.com/autolifethailand.tv

รีวิวรถยนต์ ข่าวแบรนด์รถยนต์ ไลฟ์สไตล์ รถใหม่