เดินหน้าสู่การแข่งภายใต้กฎข้อบังคับ GEN4 ใหม่ ตั้งแต่ฤดูกาลที่ 13
ปอร์เช่ (Porsche) ประกาศขยายการมีส่วนร่วมในการแข่งขัน ABB FIA Formula E World Championship ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้หมายความว่าผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตจากเมืองสตุ๊ทการ์ท จะได้ลงสนามประลองฝีมือในรถแข่งรุ่นใหม่ที่เรียกว่า GEN4 ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบพาร์ทไทม์ ซึ่งกฎระเบียบใหม่นี้จะเป็นอีกหนึ่งโจทย์ทางเทคนิคที่ท้าทายสำหรับการพัฒนารถยนต์รุ่นวางจำหน่าย (ฤดูกาลที่ 11) โดย GEN4 จะเปิดตัวในฤดูกาลที่ 13 (2026/2027) ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตสามารถขยายขอบเขตการพัฒนาได้มากขึ้น นำไปสู่การต่อยอดความรู้ที่นำไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่จะผลิตและวางจำหน่ายต่อไป
ไมเคิล สไตเนอร์ (Michael Steiner) สมาชิกคณะกรรมการบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาของปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) กล่าว “ตั้งแต่แรกเริ่ม เราถือว่าการมีส่วนร่วมในรายการแข่งฟอร์มูล่า อี เป็นกลยุทธ์ของเราในระยะยาว วิวัฒนาการของรถแข่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาของยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในอนาคต เราต้องการที่จะเก็บเกี่ยวความรู้เพิ่มเติมจากฟอร์มูล่า อี และนำไปถ่ายทอดสู่รถสปอร์ตไฟฟ้าที่เราวางจำหน่าย ในฐานะที่ ฟอร์มูล่า อี ถือเป็นหนึ่งในรายการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดที่สุด ที่ผลักดันให้เราประสบความสำเร็จด้านเทคโนโลยี เราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันนี้ต่อไป รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความก้าวหน้าของยนตรกรรมไฟฟ้าในอนาคต”
โธมัส เลาเดนบัค (Thomas Laudenbach) รองประธานปอร์เช่ มอเตอร์สปอร์ต (Porsche Motorsport) กล่าวเสริม “เช่นเดียวกับ ฟอร์มูล่า อี (Formula E) เราต้องการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและเพิ่มความยั่งยืนให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ต รวมถึงเป็นผู้นำในการพัฒนาใหม่ๆ การแข่งขันชิงแชมป์โลกถือเป็นเวทีระดับเฟิร์สคลาสที่แสดงให้เห็นถึงการแข่งขันในระดับสูงสุด ที่รวมความสนใจของประชาชนทั่วโลก และยังเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูง ความรู้ที่ได้จากการแข่งรถจะนำไปใช้ในการพัฒนารถสปอร์ตของเราได้อย่างตรงจุด วิศวกรมอเตอร์สปอร์ตทำงานอย่างเต็มที่ร่วมกับทีมที่ดูแลโครงการรถสำหรับท้องถนน ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว เราไม่ได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่จะต้องเป็นการพัฒนาเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของเรา”
พัฒนาการของรถฟอร์มูล่า อี (Formula E) ตลอด 10 ปี
ปอร์เช่ (Porsche) เข้าร่วมรายการแข่งรถพลังงานไฟฟ้าแห่งนวัตกรรมซีรี่ส์นี้ ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2019/2020 โดยในขณะนั้น รถยนต์ที่ใช้เป็นรุ่นที่สอง ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถระหว่างการแข่งขันอันเนื่องจากข้อจำกัดด้านระยะทางอีกต่อไป ปัจจุบัน รถยนต์อยู่ในเจเนอเรชั่นที่สามแล้ว โดยให้กำลังสูงสุด 350 กิโลวัตต์ อัตราการฟื้นฟูพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 600 กิโลวัตต์ และความเร็วสูงสุดมากกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดย “GEN3 Evo” ที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ จะช่วยยกระดับสมรรถนะอย่างมาก ก่อนที่จะมีการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญกับ GEN4 ซึ่งตั้งเป้าหมายที่จะให้กำลังสูงสุด 600 กิโลวัตต์ และความสามารถในการชาร์จไฟกลับสูงสุด 700 กิโลวัตต์
ความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของปอร์เช่ที่มีต่อฟอร์มูล่า อี (Formula E)
เจฟฟ์ ดอดส์ (Jeff Dodds) ประธานกรรมการบริหารของฟอร์มูล่า อี (Formula E) กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นที่แน่วแน่และจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะประกาศว่า ปอร์เช่จะยังคงเป็นเสาหลักสำคัญของการแข่งขันชิงแชมป์ต่อไปอีกอย่างน้อย 4 ปี การอุทิศตนให้กับยุค GEN4 ที่ทุกคนตั้งตารอคอยไม่เพียงแต่ผลักดันขอบเขตของเทคโนโลยีและสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่แห่งความเป็นเลิศในกีฬามอเตอร์สปอร์ตระดับโลกอีกด้วย ด้วยความเชี่ยวชาญและระบบส่งกำลังสมรรถนะสูง ในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตยานยนต์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก ความร่วมมือครั้งใหม่นี้จะช่วยสนับสนุนอนาคตที่น่าตื่นเต้นสำหรับฟอร์มูล่า อี (Formula E) ให้ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น และจะเป็นช่วงเวลาการแข่งรถที่น่าจดจำแห่งยุค”
อัลแบร์โต ลองโก (Alberto Longo) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขันและผู้ร่วมก่อตั้งฟอร์มูล่า อี (Formula E) กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นของปอร์เช่ที่มีต่อฟอร์มูล่า อี (Formula E) ในยุค GEN4 ใหม่ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นที่จะผลักดันขอบเขตของเทคโนโลยีและมอเตอร์สปอร์ต รวมทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อการแข่งขันชิงแชมป์ ซึ่งกำลังจะก้าวเข้าสู่บทใหม่อันท้าทายในปี 2026 นอกจาก FIA แล้ว ฟอร์มูล่า อี (Formula E) ยังอยู่ในระดับแนวหน้าของมอเตอร์สปอร์ตพลังงานไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของปอร์เช่ (Porsche) เกี่ยวกับอนาคตของการแข่งรถและการพัฒนายานยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ ในขณะที่ ฟอร์มูล่า อี (Formula E) เป็นเวทีสำหรับนวัตกรรมและการพัฒนารถพลังงานไฟฟ้าสำหรับขับขี่บนท้องถนน การมีส่วนร่วมของพวกเขาในฐานะผู้ผลิตรถยนต์สำหรับการแข่งขัน ABB FIA Formula E World Championship จะยังช่วยให้สามารถรักษาตำแหน่ง ในฐานะที่เป็นหนึ่งในซีรีส์การแข่งขันที่น่าตื่นเต้นและน่าติดตามในโลกของมอเตอร์สปอร์ต”
ปาโบล มาร์ติโน (Pablo Martino) หัวหน้าฝ่ายการแข่งขัน Formula E Championship ของ FIA กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่จะประกาศว่าปอร์เช่ (Porsche) ถือเป็นผู้ผลิตรายที่ 3 ที่ประกาศจะเข้าร่วมในยุค GEN4 ของ ฟอร์มูล่า อี (Formula E) เช่นเดียวกับนิสสันและจากัวร์ที่ประกาศถึงการมีส่วนร่วมแล้ว สำหรับปอร์เช่ (Porsche) ถือเป็นแบรนด์แห่งมรดกและนวัตกรรมของมอเตอร์สปอร์ตที่มีมายาวนาน เราตั้งตารอคอยที่จะร่วมมือกับกับผู้ผลิตทั้งหมดที่ประกาศมีส่วนร่วมกับเรา รวมถึงผู้ผลิตรายอื่นๆ ที่จะมีการประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไปจนถึงภายในปี 2030 ในระหว่างนี้ เรายังคงเดินหน้าพัฒนาทิศทางที่น่าตื่นเต้นของการแข่งขันชิงแชมป์ และมุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตของการแข่งขันรถพลังงานไฟฟ้าต่อไป”
ปอร์เช่ ในรายการแข่งขัน ฟอร์มูล่า อี (Porsche in Formula E)
ปอร์เช่ (Porsche) ลงแข่งขันฟอร์มูล่า อี (Formula E) ฤดูกาลที่ 5 ในปี 2023/2024 พร้อมด้วยทีม TAG Heuer Porsche Formula E และทีม Andretti Formula E ที่ลงแข่งขันด้วย Porsche 99X Electric โดยแนวคิดของรถแข่งไฟฟ้านี้ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ได้รับพัฒนาจากโรงงาน Weissach ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (net CO2-neutral) และด้วยความมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์โลกในรายการฟอร์มูล่า อี (Formula E) เราจึงทุ่มเทเพื่อเป็นผู้นำในกลุ่มผู้ผลิตรถพลังงานไฟฟ้า โดยยังคงเสน่ห์ความดั้งเดิม ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งรายการแข่งขันฟอร์มูล่า อี (Formula E) นี้ ทำให้แบรนด์ได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่ามากมาย ที่จะนำไปพัฒนารถพลังงานไฟฟ้าในสายการผลิตต่อไป
วิเคราะห์ เจาะลึก ทุกข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา กับผม นิธิ ท้วมประถม
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสาร ข่าวรถยนต์ รถใหม่ สกู๊ปพิเศษ ลองขับ อย่าลืมติดตามเรา ช่องยูทูป – auto lifethailand tv
ติดต่อโฆษณา
Project Manager (คุณแอม)
โทร. 089 533 5115
Email : autolifethailand@gmail.com
หรือ Inbox ได้ทาง Facebook Fanpage https://www.facebook.com/autolifethailand.tv