Xpeng X9 มีรุ่นปี 2025 ตามมาแล้ว โดยความเปลี่ยนแปลงภายนอกนั้นมีเพียงเล็กน้อย แต่ทางการเคลมว่ามีการปรับปรุงชิ้นส่วนใหม่ถึง 496 ชิ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการโดยสารและขับขี่ รวมถึงความปลอดภัย โดยในส่วนของรูปลักษณ์มีการติดตั้งแผงปิดเซนเซอร์เรดาร์ ล้อมีให้เลือกทั้งขนาด 19 – 20 นิ้ว พร้อมดุมล้อแบบ Dynamic ส่วนสีตัวถังที่เพิ่มเข้ามาใหม่มีทั้ง สีม่วง Nebula Purple, สีน้ำเงิน Galaxy Blue และ สีเทาด้าน Matte Starship Gray เสริมทัพสีเดิมที่ยังมีให้เลือกอย่างสีเทา Starship Gray, สีขาว Nebula White, สีเงิน New Moon Silver และ สีดำ Midnight Black
Xpeng X9 รุ่นปี 2025 เพิ่มประตูคู่หน้าแบบประตูดูด Soft Close มาให้ ส่วนการตกแต่งเพิ่มวัสดุบุนุ่มรอบคัน ครอบคลุมพื้นที่เพิ่มเติมกว่า 3.2 ตร.ม. รวมกับของเดิมเป็น 26.6 ตร.ม. เสริมด้วยการปรับวัสดุตกแต่งและปุ่มกดให้พรีเมี่ยมขึ้น เบาะเป็นแบบ Zero Gravity ในแถวแรกและแถวสอง ลดแรงกดต่ออวัยวะผู้ใช้งานทั่วร่างกาย ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก NASA และยังมีระบบนนวด 10 จุด หรือสั่งเพิ่มเป็น 16 จุดได้ ช่องว่างระหว่างเบาะแถวสองยังกว้างพอ ให้เด็กที่อายุต่ำกว่าอายุ 10 ขวบ เดินเข้าแถวสามได้อย่างง่ายดาย
ระบบแสดงผลใน Xpeng X9 รุ่นปี 2025 มีหน้าจอหลังขนาด 21.4 นิ้ว พร้อมระบบ anti-blue light และปรับองศาได้ 0 – 75 องศา ทั้งยังมีระบบร้องคาราโอเกะแบบไร้ไมโครโฟน และเพิ่มช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าขนาด 220 โวลต์มาด้วย ส่วนช่องเก็บอุณหภูมิทั้งอุ่นและเย็นมีความจุรวม 10.8 ลิตร เบาะแถวหลังสุดพับลงด้วยไฟฟ้า ปิดท้ายกับระบบซับเสียงและแรงสะเทือนตามมาตรฐาน 58 NVH ซึ่ง Xpeng ระบุว่าลงทุนกับเทคโนโลยีด้วยมูลค่า 50 ล้านหยวน (ราว 220 ล้านบาท) เพื่อให้ได้มาซึ่งความเงียบหลักหลายสิบล้านหยวน
Xpeng X9 รุ่นปี 2025 สร้างขึ้นบนงานวิศวกรรมแบบ 800 โวลต์ มาพร้อมกับทางเลือกแบตเตอรี่สองขนาดระหว่างแบบ LFP ขนาด 94.8 kWh และ แบบ NMC lithium-ion ขนาด 105 kWh ส่วนสมรรถนะมีทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยว กำลังสูงสุด 320 แรงม้า และ รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด 503 แรงม้า เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในส่วนของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มีเทคโนโลยี Turing AI พร้อม Little Blue Light ไว้ช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างการใช้งาน
ช่วงล่างของ Xpeng X9 รุ่นปี 2025 ทุกรุ่นเป็นถุงลมแบบ Dual Chamber พร้อมโช๊คอัพปรับระดับได้ ซึ่งปรับขึ้นลงได้สูงสุด 90 มิลลิเมตร และแปรผันตามสภาพถนน ทั้งยังเป็นรุ่นแรกของโลกที่ติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวสี่ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย Xpeng X9 รุ่นปี 2025 เปิดรับจองแล้วที่จีน ก่อนถึงกำหนดการเปิดตัวในงาน Auto Shanghai 2025 โดยมีให้เลือก 4 รุ่นย่อย พร้อมราคาจำหน่ายที่นั่น ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- Long Range Max ขับได้ไกลสุด 650 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้น 359,800 หยวน (ราว 1,643,000 บาท)
- Ultra Long Range Max ขับได้ไกลสุด 740 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้น 379,800 หยวน (ราว 1,734,000 บาท)
- AWD Performance Max ขับได้ไกลสุด 702 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้น 399,800 หยวน (ราว 1,826,000 บาท)
- Starship Edition ขับได้ไกลสุด 702 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้น 419,800 หยวน (ราว 1,917,000 บาท)
ที่มา: carnewschina, autohome
