Honda ได้เปิดตัวรถยนต์ Prototype เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2025 จำนวน 2 รุ่นด้วยกัน โดยแบ่งเป็น Honda 0 Saloon และ Honda 0 SUV ซึ่งทั้งสองต่างอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Honda 0 Series ที่สร้างขึ้นบน platform ที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อ EV โดยเฉพาะ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่มีคุณสมบัติ บาง, เบา และชาญฉลาด (Thin, Light and Wise) ทั้งยังเตรียมออกจำหน่ายทั่วโลกในปี 2026 โดยจะประเดิมกับตลาดอเมริกาเหนือก่อน จากนั้นจะขยายไปยังญี่ปุ่นและยุโรป
เริ่มต้นกับรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละรุ่นที่ทางการเปิดเผยมาสั้นๆ โดย Honda 0 Saloon เวอร์ชั่นผลิตจริงจะรักษาทรวดทรงที่เห็นในรถยนต์ต้นแบบเอาไว้ ในเรื่องของส่วนสูงต่ำและดีไซน์สปอร์ต แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าคันอื่นเพียงแรกเห็น ทั้งยังมีห้องโดยสารกว้างขวางกว่าที่ผู้คนทั่วไปคิด เมื่อมองจากขนาดภายนอก วางตำแหน่งไว้เป็นเรือธงของ Honda 0 Series และให้ความสำคัญกับคุณค่าเรื่องความชาญฉลาด
ไปต่อกับ Honda 0 SUV ที่ให้คุณค่าเรื่องพื้นที่ (Space) ซึ่งบริษัทต้องการมอบให้กับผู้คนที่มองหา EV ในอนาคต วางตำแหน่งในกลุ่ม SUV ขนาดกลาง มาพร้อมห้องโดยสารกว้างขวางและเปิดกว้าง ทั้งยังมอบ Digital User Experience ขั้นสูงและควบคุมได้อย่างแม่นยำ ด้วยเซนเซอร์ 3D gyro ตามใจสั่งผู้ขับขี่บนทุกสภาพถนน และยังรองรับการปรับแต่งตามต้องการแบบขั้นสุด Ultra-personal Optimization
บริษัทฯ ยังเปิดเผยรายละเอียดเทคโนโลยีเด่นหลายประการใน Honda 0 Series เริ่มต้นกับระบบปฏิบัติการหลักของพาหนะ ASIMO OS ซึ่งต่อยอดจากหุ่นยนต์ Asimo ที่สามารถตอบสนองต่อปฏิกริยารอบข้าง และในตอนนี้ได้วิวัวัฒนาการมาเป็น software ที่ใช้ควบคุมระบบต่างๆ ภายในยานพาหนะ ตั้งแต่ระบบขับขี่อัตโนมัติไปจนถึง Infotainment ทั้งยังรองรับการอัพเดทแบบ over-the-air เพื่อให้ระบบได้รับการพัฒนาต่อไป
เทคโนโลยีเด่นต่อมาใน Honda 0 Series คือระบบขับขี่อัตโนมัติระดับที่ 3 ซึ่งผู้ขับขี่ละสายตาจากถนนได้ ภายใต้การขับขี่บางสภาวะอย่างการจราจรติดขัด หรือขับขี่อยู่บนทางหลวง ซึ่งบริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยี AI มาเรียนรู้ทักษะของนักขับที่มีประสบการณ์ เพื่อนำไปปรับการตอบสนองภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ทั้งหมดนี้จำเป็นต้องใช้ระบบประมวลผลขั้นสูง เพราะมีการเล็งควบรวม ECU ย่อยเข้าเป็น ECU หลักด้วย Honda จึงจับมือกับ Renesas เพื่อพัฒนา system-on-chip (SoC) สมรรถนะสูง เพื่อมาตอบโจทย์ในจุดนี้
พร้อมกันนี้ Honda ยังประกาศตั้งเครือข่ายสถานีชาร์จ IONNA ให้มีจำนวนสถานีครบ 30,000 แห่ง ในสหรัฐฯ ภายในปี 2030 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ออก Honda 0 Series นอกจากนั้น ยังมีเทคโนโลยีสั่งการชาร์จไฟโดยอัตโนมัติ เมื่อพบว่าอยู่ในช่วงที่ค่าไฟมีราคาถูกหรืออยู่ในช่วงที่มีการใช้ไฟต่ำ เพื่อบริหารค่าไฟในบ้านให้ต่ำที่สุด ทั้งยังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้ากลับคือ power grid ได้ในช่วงที่มีกระแสไฟฟ้าขาดแคลนอีกด้วย
ที่มา: Honda
