หากกล่าวถึงเทคโนโลยีที่กำลังเป็นเทรนด์แห่งอนาคตคงจะหนีไม่พ้น ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือ (BEV) ที่ทุกแบรนด์ต่างมุ่งพัฒนาเพื่อไปสู่ความเป็นกลางทางด้านคาร์บอน (Carbon Neutrality) โดยเฉพาะในประเทศไทย ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เห็นถึงปริมาณการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีจำนวน ‘มหาศาล’ ทุกสัญชาติทั้ง จีน, ญี่ปุ่นและยุโรป
แต่ที่จะร้อนแรงและถูกกล่าวถึงเยอะหน่อยคงเป็น แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีน ที่ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) เป็นเรือธงในการตีตลาดทั่วโลกเพราะจากช่วงเริ่มต้นจนถึงช่วงร้อนแรงเวลานี้จำนวนแบรนด์และจำนวนรุ่นที่เปิดตัวลงสู่ตลาดในประเทศไทยก็มากจนนับนิ้วเริ่มไม่พอซึ่งต้องยอมรับว่าความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีของแบรนด์สัญชาติจีนมีความรวดเร็วมากทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย
หลายครั้งเห็นการเปิดตัวในต่างประเทศอีกไม่กี่วันหรือกี่สัปดาห์ ก็เชิญสื่อมวลชนไทยไปทดสอบที่ต่างประเทศแล้ว และอีกไม่นานหลังจากนั้น ก็เอามาโชว์และเปิดตัวในประเทศไทยแล้ว ในกระบวนการที่กล่าวไปนี้ใช้ระยะเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น จากเดิมที่เคยรับรู้กันคือเปิดตัวในต่างประเทศแล้วกว่าจะมาในประเทศไทยก็อย่างน้อย 1-2 ปี แต่ตอนนี้แบรนด์สัญชาติจีนทำให้ทั่วโลกเปิดตัวพร้อมกันหรือใกล้เคียงกันได้ไม่ว่าจะเป็น พวงมาลัยซ้าย หรือ พวงมาลัยขวา ก็ตาม
ถึงวันนี้ความก้าวล้ำของแบรนด์สัญชาติจีนยังไม่หยุดเพียงการแนะนำเทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า 100% ลงสู่ตลาดเท่านั้น แต่ยังปูทางเทคโนโลยีที่หลายคนให้คำนิยามว่า “เทคโนโลยีก่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า” อย่างเทคโนโลยี ไฮบริด (HEV) และ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนร่วมกับเครื่องยนต์ ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าทางฟากฝั่งของ แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น และ แบรนด์ยุโรป เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีทั้ง 2 ชนิด มาอย่างยาวนาน แต่นาทีนี้เราคงเริ่มได้ยินคำว่า Extended Range Electric Vehicle (EREV) จากแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนที่เริ่มโหมโรงปูทางให้ได้รู้จักกับเทคโนโลยีนี้
เทคโนโลยี EREV คืออะไร
สำหรับเทคโนโลยี EREV หรือ Extended Range Electric Vehicle ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายแบรนด์ที่เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า REEV หรือ Range-Extended Electric Vehicle โดยทั้ง 2 ชื่อเรียกนี้ไม่มีความแตกต่างกันแต่อย่างใด โดยอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นคือ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีระบบขยายระยะทางการขับขี่ด้วยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปั้นไฟเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ โดยมีองค์ประกอบหลัก 2 อย่างคือ
- ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า – ทำงานโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนรถยนต์ด้วยมอเตอร์
- เครื่องยนต์สันดาปภายใน – ทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟเพื่อชาร์จแบตเตอรี่
รถยนต์เทคโนโลยี EREV อาจมีระยะทางการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน ๆ อย่างเดียวราว ๆ 100 กม. ซึ่งเมื่อแบตเตอรี่ลดลงเครื่องยนต์จะปั่นไฟเพื่อชาร์จกลับเข้าแบตเตอรี่ทำให้สามารถขยายระยะทางการขับขี่ได้ โดยระยะทางรวมของแบตเตอรี่และเครื่องยนต์จะสามารถขับขี่ได้ราว ๆ 1,000 กม. ขึ้นไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : CHANGAN แนะนำเทคโนโลยี REEV ก่อนเปิดตัวในรถรุ่นใหม่ปี’68
เทคโนโลยี EREV แตกต่างอย่างไรกับ PHEV และ HEV
รถยนต์ EREV จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนล้อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ต่างจาก PHEV ที่มีระบบ Parallel Hybrid ที่เครื่องยนต์สามารถส่งกำลังไปขับเคลื่อนควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าด้วย มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สามารถชาร์จไฟฟ้ากักเก็บพลังงานไว้ใช้ได้ ส่วน HEV มีเครื่องยนต์สันดาบภายในเป็นตัวขับเคลื่อนหลักและใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการเสริมกำลังคล้ายกับการทำงานแบบ Series Hybrid คำนวนการใช้พลังงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ในสภาพการขับขี่ที่ต้องการพลังงานเพิ่มเติม มีแบตเตอรี่ขนาดเล็กไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้
หลักใหญ่ใจความสำคัญของเทคโนโลยีนี้ ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดในการ เดินทางข้ามจังหวัด เดินทางข้ามมณฑล หรือ เดินทางข้ามเมือง ในประเทศจีนที่มีระยะทางไกลเกินกว่าที่ รถยนต์ไฟฟ้า 100% จะสามารถมีระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จครอบคลุม แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมในประเทศจีนมากก็ตาม เหล่าบรรดาแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีน จึงได้พัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวขึ้น
นอกจากนั้น ยังเป็นการขยายตลาดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ยังคงต้องการใช้รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่แต่ต้องการอัตราประหยัดพลังงานและการลดการปล่อยมลพิษ รวมถึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกับรถยนต์ แบรนด์ญี่ปุ่น และ ยุโรป ด้วยเทคโนโลยีที่ผู้บริโภคเริ่มให้การยอมรับกับคุณภาพของรถยนต์แบรนด์จีนในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าเป็นต้นทุนในยุคนี้มาผสานกับเครื่องยนต์ที่มีหน้าที่ปั่นไฟทำให้มีระยะทางการขับขี่ไกลขึ้น
ถึงตรงนี้คงพอเห็นภาพรวมของเทคโนโลยีและแนวคิดของแบรนด์จีนที่นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปูทางกันบ้างแล้ว Autolifethailand พาทุกคนไปดูกันต่อว่าแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนแบรนด์ไหนมีแผนการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวและมีรุ่นใดบ้างที่เตรียมแนะนำลงสู่ตลาดในประเทศไทย สังเกตุได้จากการเริ่มแนะนำเทคโนโลยีดังกล่าวในรถยนต์รุ่นใหม่ที่งาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 41 หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2024 (Motor Expo 2024) และในปี 2568 จะมีรุ่นใดเปิดตัวด้วยเทคโนโลยีดังกล่าวบ้าง
เริ่มต้นที่ CHANGAN Automobile ที่นำเอาเทคโนโลยี REEV หรือ EREV มาแนะนำให้รู้จักครั้งแรกในประเทศไทย ในงาน Techsauce Global Summit 2024 ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดตัว เทคโนโลยี DEEPAL REEV มาแนะนำให้ประชาชนได้รู้จักเทคโนโลยีดังกล่าวก่อนเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในรถยนต์รุ่นใหม่ของแบรนด์ในปี 2568 ซึ่งจะถูกนำมาติดตั้งใน Deepal S05 รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก คาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือน มีนาคม 2568 และรถยนต์รุ่นดังกล่าวจะมีการประกอบที่โรงงานในประเทศไทย
ในงาน Motor Expo 2024 CHANGAN ได้ตอกย้ำความตั้งใจในการแนะนำเทคโนโลยีดังกล่าวในประเทศไทยด้วยการนำเอา CHANGAN HUNTER ซึ่งเป็นกระบะขุมพลัง EREV คันแรกของโลกใช้เครื่องยนต์สร้างพลังงานไฟฟ้าสำหรับแบตเตอรี่ และมอเตอร์ในการขับเคลื่อนรุ่นแรกของโลก โดยสามารถวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้าล้วนได้ระยะทางไกลถึง 180 กม. และวิ่งครอบคลุมระยะไกล 1,031 กม.
ส่วน NETA นำเอา NETA S Shooting Brake รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Wagon ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี Super EREV มาโชว์ตัวในงาน Motor Expo 2024 ภายใต้คอนเซปต์ “New Energy, Super Intelligent, More FUN” ซึ่งเป็นนวัตกรรม ที่ผสานประสิทธิภาพของพลังงานไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาป มีมอเตอร์ไฟฟ้าใช้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักและเครื่องยนต์สันดาปภายในใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ โดยมีระยะทางการขับขี่รวม 1,200 กิโลเมตร ต่อน้ำมันหนึ่งถังและการชาร์จหนึ่งครั้ง NETA ตั้งเป้าหมายแนะนำเทคโนโลยีนี้ในรถยนต์ NETA รุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวให้แก่ลูกค้าชาวไทย ปี 2568
ด้าน Chery International ที่ใช้แบรนด์ OMODA&JAECOO ทำตลาดในประเทศไทย ได้มีการแนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง ต้นแบบ ในรุ่น EXEED EXLANTIX E08 วางตำแหน่งในกลุ่ม Luxury MPV มาพร้อมเทคโนโลยี REEV เพื่อตอบโจทย์การเดินทางไกลแบบครอบครัว ซึ่งจะเปิดตัวลงสู่ตลาดในประเทศจีนก่อนส่วนในประเทศไทยยังรอการคอนเฟิร์มอีกครั้ง
สำหรับ XPENG แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนที่ประกาศตัวตั้งแต่วันก่อตั้งบริษัทว่าจะเป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เท่านั้น ล่าสุดช่วงต้นเดือน พฤศจิกายน 2567 ในงาน AI Day ที่ประเทศจีน He Xiaopeng ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ได้ประกาศว่าบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยี EREV ภายใต้ชื่อ “Kunpeng” เพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเทคโนโลยีดังกล่าวของบริษัทมีระยะทางการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วน 430 กม. และมีระยะทางการวิ่งรวม 1,400 กม. โดยการประกาศดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ของ XPENG
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : บอร์ดอีวี เห็นชอบขยายผลิตชดเชย EV3.0 และ ลดภาษีผลิตรถ Hybrid
ขณะเดียวกัน ล่าสุด คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ซึ่งมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับผลิตรถยนต์ Hybrid (HEV) และ Mild Hybrid (MHEV) กำหนดภาษีสรรพสามิตในอัตราคงที่ ตั้งแต่เริ่มใช้โครงสร้างภาษีใหม่ เป็นเวลา 7 ปี (2569 – 2575) ซึ่งต้องติดตามการพิจารณาว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะเข้าข่ายการเสียภาษีในมาตรการส่งเสริมใด ไม่ว่าจะเป็นมาตรการล่าสุดนี้ หรือ มาตรการส่งเสริมที่ประกาศไปก่อนหน้านี้
จากเทรนด์ดังกล่าวที่แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีน นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาโชว์ในงาน Motor Expo 2024 และมีแผนที่จะเปิดจำหน่ายในประเทศไทยในปี 2568 และหลายแบรนด์มีการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นเทรนด์สำคัญที่เป็นการส่งสัญญาณจากแบรนด์จีนที่นำเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบพลังงานทางเลือกใหม่ มาต่อสู้กับแบรนด์ญี่ปุ่นและแบรนด์ยุโรปเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดและขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ต้องติดตามเกมการแข่งขันนี้น่าสนใจไม่น้อย