นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีสเอเชีย จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า CHANGAN (ฉางอาน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนการเปิดตัวแบรนด์ AVATR ภายในเดือน กันยายน นี้ และ จะมีการเปิดตัว DEEPAL E07 ภายในงาน มหกรรมยานยนต์ (มอเตอร์ เอ็กซ์โป) ในช่วงเดือน พฤศจิกายนนี้ โดยรถยนต์รุ่นดังกล่าวเป็นรถยนต์ที่ผสมระหว่างรถยนต์อเนกประสงค์และรถกระบะ รวมถึงมีแผนเปิดตัวรุ่นที่ผลิตในประเทศจากโรงงานระยองในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยจะเป็นรุ่นแบบ BEV และ REEV ซึ่งเป็นเทคโนโลยี DEEPAL Super REEV สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 1,000 กิโลเมตรจากการชาร์จและเติมน้ำมันเต็มถัง
สำหรับผลการดำเนินงาน 1 ปีแรกที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 8,000 คัน และส่งมอบแล้วราว 6,000 คันโดยในจำนวนดังกล่าวราว 5,000 คัน เป็น DEEPAL S07 ส่งผลให้บริษัทติดอันดับ 1 ใน 10 ของ ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ในภาพรวม โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 2.6% และเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง (C-SUV) โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 21%
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีศูนย์จำหน่ายและบริการอยู่ที่ 30 แห่ง ครอบคลุม 25 จังหวัด และจะเพิ่มเป็น 60 แห่งภายในปี 2567 และเป็น 100 แห่งทั่วประเทศ ในปี 2568
“แม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในปีนี้ บริษัทได้ประสบความสำเร็จด้วยยอดขาย 8,000 คัน ภายใน 1 ปี พร้อมกันนี้เรายังได้จ่ายภาษีให้กับประเทศไทยราว 1,200 ล้านบาท ด้วย”
นอกจากนี้ CHANGAN ได้พัฒนาคลังอะไหล่ขนาดกว่า 3,000 ตารางเมตร ที่สามารถเก็บอะไหล่กว่า 2,000 ประเภท และชิ้นส่วนมากกว่า 40,000 ชิ้น ทำให้สามารถจัดส่งอะไหล่ครอบคลุมกว่า 95% ของประเทศภายใน 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังเปิดตัวศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ดิจิทัลใหม่ในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งยกระดับความสะดวกสบาย และคุณภาพการบริการแก่ลูกค้าทั่วประเทศอีกด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ChangAn AVATR 11 SUV Coupe’ รถไฟฟ้า100% เตรียมเปิดตัวในไทย เดือน กันยายน 2024 นี้ | Premium SUV
การก่อสร้างโรงงานที่จังหวัดระยองและจะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาของ CHANGAN ทั่วโลก ด้วยการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท โดยดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 80% และมีกำหนดเริ่มการผลิตในไตรมาสแรกของปี 2025 โดย CHANGAN ได้ใช้ซัพพลายเออร์ท้องถิ่นกว่า 300 ราย และมีแผนที่จะเพิ่มอัตราส่วนชิ้นส่วนท้องถิ่นในรุ่นที่ผลิตในประเทศต้นปีหน้าถึง 50% ในด้านบุคลากรท้องถิ่น ได้ว่าจ้างพนักงานเกือบ 300 คนในกรุงเทพ รวมถึงที่จังหวัดระยอง คิดเป็น 70% ของพนักงานทั้งหมด และยังมีแผนที่จะส่งพนักงานที่มีทักษะประมาณ 100 คนไปฝึกอบรมที่ฉงชิ่งในเดือนกันยายนนี้ด้วย
ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในปี 2024 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 90 ล้านคัน และยอดขายยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จะเพิ่มขึ้นถึง 17 ล้านคัน ซึ่งแสดงถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด NEV โดยจีนยังคงเป็นผู้นำในกระแสนี้ และคาดว่ายอดขาย NEV ในจีนจะถึง 11.5 ล้านคันในปี 2024 และตลาด EV ของไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคง ด้วยการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล และแรงขับเคลื่อนจากลูกค้าพลังงานใหม่ โดยตลาดของ BEV ในไทยเติบโตเกิน 10% ในครึ่งแรกของปี 2024 และอีกกว่า 15% ในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
นายเซิน ซิงหัว กล่าวว่า แน่นอนว่าจีนเป็นผู้นำ NEV ทั่วโลกนี้ในปี 2024 ยอดขายรถยนต์ใหม่ในจีนคาดว่าจะถึง 31 ล้านคัน โดยเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ตามยอดขาย NEV คาดว่าจะขึ้นถึง 37% โดยคาดว่าภายในปี 2030 โครงสร้างพลังงานของรถยนต์นั่งในจีนจะเป็นอัตราส่วน 4:4:2 หมายความว่า 40% เป็น EV อีก 40% เป็น XEV ซึ่งรวมถึง PHEV และ REEV และอีก 20% เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในและ HEV ซึ่งเน้นให้เห็นถึงบทบาทนำของจีนในการพัฒนา NEV ทั่วโลก
ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยกำลังดำเนินนโยบาย 30@30 ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน แม้จะมีเศรษฐกิจถดถอย ทำให้การอนุมัติสินเชื่อของธนาคารเข้มงวดขึ้น และความต้องการซื้อรถยนต์ในไทยลดลง แต่อัตราการเจาะตลาดของ BEV ยังเกิน 10% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 และเกินกว่า 15% ในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ดังนั้นเราจึงมั่นใจว่า ด้วยการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลและขับเคลื่อนโดยลูกค้าพลังงานใหม่ ตลาด EV ของไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็ว และมั่นคง ซึ่งจะทำให้นโยบาย 30@30 ประสบความสำเร็จ