7 วิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์
แบตเตอรี่รถยนต์ก็ไม่ต่างจากส่วนประกอบอื่น ๆ ของรถยนต์ เพราะมีการใช้งานที่จำกัด นั่นแปลว่าหากเราปล่อยปละละเลย พอจะใช้งานอีกที กลายเป็นว่าแบตเตอรี่เสียไปแล้ว ซึ่งหากใครอยากที่จะมีรถไว้ใช้นาน ๆ ต้องอย่าลืมที่จะดูแลรักษาแบตฯ กันไว้บ้างค่ะ เรานำวิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ ที่คนมีรถทุกคนจะต้องรู้ไว้ค่ะ
ประเภทของแบตเตอรี่
เรามักจะพูดว่าแบตเตอรี่ ๆ ๆ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าแบตเตอรี่รถยนต์ยังคงแบ่งประเภทออกมา ด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ได้แก่
- แบตเตอรี่แบบเปียก : เป็นแบตเตอรี่ที่คนนิยมใช้กัน มีฝาเปิด-ปิด สามารถเติมน้ำกลั่นเองได้ มีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 ปี แต่หากดูแลดีสามารถใช้งานได้นานกว่านั้นมาก ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
- แบตเตอรี่แบบแห้ง : เป็นแบตเตอรี่แบบไม่จำเป็นต้องเติมน้ำกลั่น แบตเตอรี่แบบนี้จะไม่มีฝาเปิด-ปิดสำหรับเติมน้ำกลั่น ระยะหลังเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น อีกทั้งแบตเตอรี่รุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ หันมาใช้แบตเตอรี่แบบนี้ เพราะสะดวกสบาย แต่ราคาจะค่อนข้างสูง ข้อดีอีกข้อคือ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าแบบเปียกอยู่ที่ 5-10 ปี
วิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์
- ควรดูแลขั้วแบตเตอรี่ให้สะอาดอยู่เสมอ โดยการทาขั้วแบตเตอรี่ด้วยวาสลีนเพื่อป้องกันไม่ให้มีคราบขี้เกลือขึ้น แต่หากมีคราบขี้เกลือขึ้นที่ขั้วแบตเตอรี่แล้ว ก็มีวิธีทำความสะอาดง่ายๆ คือ ใช้น้ำร้อนราดทำความสะอาด
- ตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่อยู่เสมอ อย่าให้มีรอยแตกรอยร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้เท่าที่ควร
- ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่รถยนต์ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่าปล่อยให้น้ำกลั่นแห้ง ควรเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับกลาง ๆ ระหว่างขีดสูงสุดและต่ำสุด แต่อย่าเติมให้เกินขีดสูงสุด
- ควรตรวจเช็กระบบชาร์จไฟของอัลเตอร์เนเตอร์ เพื่อดูว่าระบบไฟชาร์จต่ำหรือสูงเกินไปหรือเปล่า ถ้าต่ำไปเราอาจมีประจุไฟไม่พอใช้ ทำให้มีปัญหาตอนสตาร์ตรถ หรือหากสูงไปจะทำให้น้ำกรดและน้ำกลั่นระเหย และเดือดเร็วเกินไป อาจจะทำให้มีปัญหาหม้อน้ำมีความร้อนสูงเกินไป
- ควรตรวจสอบวัดระดับกระแสไฟฟ้าของแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูว่าแบตเตอรี่เสื่อมหรือมีปัญหาอื่น ๆ ในการเก็บประจุไฟฟ้าหรือไม่
- หลีกเลี่ยงการใช้กระแสไฟมาก ๆ ในขณะที่อากาศเย็นจัด หากรถยนต์ของคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวมากและหนาวนาน อย่าลืมว่าประสิทธิภาพการกระจายของน้ำกรดและน้ำกลั่นจะลดลงด้วย ทางที่ดีควรจอดรถข้ามคืน ตอนเช้าควรจะสตาร์ตรถยนต์ทิ้งไว้สัก 5-10 นาทีเพื่ออุ่นเครื่อง ก็จะส่งผลที่ดีต่อของรถยนต์ของคุณมากกว่าค่ะ
- สำหรับแบตเตอรี่แห้ง ตัวตาแมวของแบตเตอรี่จะเอาไว้ใช้ดูกำลังไฟ หากเป็นสีน้ำเงินเท่ากับว่าทุกอย่างปกติดี หากเปลี่ยนเป็นสีส้มหรือสีแดงหมายความว่าแบตเตอรี่มีปัญหา อาจจะต้องชาร์จไฟหรือเติมน้ำกลั่นเพิ่ม แต่ถ้าเป็นสีขาว แปลว่าแบตเตอรี่เสื่อมคุณภาพหรือเสีย ต้องเปลี่ยนลูกใหม่สถานเดียว
นอกจากนี้ การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ยังทำได้อีกมากมาย เช่น หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ขณะตรวจเช็กแบตเตอรี่เป็นอันขาด เพราะอาจจะทำให้ระเบิดได้ หรือหากระบบไฟอ่อน หรือมีปัญหาตอนสตาร์ตเครื่อง อาจจะลองตรวจสอบไดชาร์จดู รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้น้ำกรดหรือน้ำกลั่นที่มีสารเคมีผสม อาจจะไปกัดตัวแบตเตอรี่ทำให้มีปัญหาได้
หากผู้ใช้รถหมั่นดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์เป็นประจำ ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่เพิ่มมากขึ้น สิ่งสำคัญคือการรู้จักสังเกตความผิดปกติ หรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับรถหรือแบตเตอรี่ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและซ่อมแซม
ติดต่อโฆษณา
Project Manager (คุณแอม)
โทร. 089 533 5115
Email : autolifethailand@gmail.com
หรือ Inbox ได้ทาง Facebook Fanpage https://www.facebook.com/autolifethailand.tv