โตโยต้า ผนึกกำลังเครือข่ายครอบครัวโตโยต้าทั่วประเทศ ร่วมใจสู้ภัย COVID-19 สนับสนุนรถ และสิ่งของจำเป็น แก่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย ภายใต้โครงการ “Toyota Stay With You”
รายการสนับสนุนจาก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับกลุ่มผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ และกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้า แก่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ในช่วงการระบาดของโรคไวรัส COVID-19 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. กระทรวงสาธารณสุข
– สนับสนุนรถตู้ จำนวนทั้งสิ้น 40 คัน เพื่อใช้เป็นรถปฏิบัติการเคลื่อนที่ในการรับส่ง บุคลากรและเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่ทำหน้าที่ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วย COVID-19 ซึ่งรายละเอียดประกอบด้วย
1) มูลนิธิ โตโยต้า โมบิลิตี้ (Toyota Mobility Foundation) ซึ่งเป็นมูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไร สนับสนุนรถตู้ โตโยต้าคอมมิวเตอร์ รุ่นดัดแปลงพิเศษเพื่อการสาธารณสุข จำนวน 10 คัน
2) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด สนับสนุนรถตู้โตโยต้ามาเจสตี้ รุ่นมาตรฐาน จำนวน 10 คัน รถตู้โตโยต้า คอมมิวเตอร์ จำนวน 20 คัน
– มอบข้าวสาร จากโรงสีข้าวรัชมงคล จำนวน 50 ตัน เพื่อสนับสนุนในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วย COVID-19
– มอบกล่องป้องกันเชื้อฟุ้งกระจาย (Aerosol Box) จำนวน 3,000 ชิ้น ที่ผลิตภายใต้ความร่วมมือของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ กลุ่มบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้า เพื่อให้กับบุคลากรทางการแพทย์ได้ใช้ในระหว่างปฏิบัติการใส่ท่อช่วยหายใจแก่คนไข้ และลดความเสี่ยงการฟุ้งกระจายของเชื้อไวรัสจากคนไข้สู่แพทย์ในขณะปฏิบัติการ
– มอบอุปกรณ์ป้องกันใบหน้าและดวงตาจากสารคัดหลั่ง (Face Shield) จำนวน 20,000 ชิ้น ซึ่งผลิตโดยอาสาสมัครพนักงานโตโยต้า เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ใช้ในการปกป้องใบหน้าเพื่อลดความเสี่ยงในระหว่างปฏิบัติการดูแลผู้ป่วย COVID-19
2. กระทรวงมหาดไทย
– สนับสนุนรถยนต์โตโยต้า โคโรลล่า จำนวน 100 คัน และ รถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ จำนวน 150 คัน ให้แก่กระทรวงมหาดไทยเพื่อใช้ประโยชน์ในภารกิจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ เช่น การติดต่อประสานงาน การค้นหาติดตามผู้ติดเชื้อ การเฝ้าระวังสถานการณ์ ตลอดจนการจัดตั้งจุดคัดกรองและจุดสกัดต่างๆ
– บริจาคข้าวสาร จากโรงสีข้าวรัชมงคล จำนวน 77 ตัน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยจัดส่งผ่านผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า จังหวัดละ 1 ตัน เพื่อกระจายความช่วยเหลือไปยังทุกจังหวัดทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน
นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “หลังจากที่บริษัทฯ ได้ออกมาตรการในการดูแลสุขอนามัยของโชว์รูมและศูนย์บริการฯ ในทุกจุดสัมผัส รวมไปถึงการให้บริการดูแลทำความสะอาด ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสภายในรถยนต์ให้กับลูกค้าที่สนใจทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ารับบริการแล้ว เป็นรถยนต์โตโยต้า 28,500 คัน รถยนต์ยี่ห้ออื่น 1,500 คัน รวมทั้งสิ้น 30,000 คัน ในส่วนของบริษัทโตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวของโตโยต้า ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกค้าในทุกๆ กลุ่มอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตในครั้งนี้ ให้สามารถขอพักชําระหนี้ได้ไม่เกิน 90 วัน โดยสามารถยื่นเรื่องร่วมโครงการผ่านช่องทางออนไลน์ของโตโยต้า ลีสซิ่ง คิดเป็นมูลค่าในการสนับสนุนงานบริการฯและการพักชำระหนี้ 120 ล้านบาท และในส่วนของการสนับสนุนรถยนต์ ข้าวรัชมงคลและอุปกรณ์ที่จำเป็นแก่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยนั้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 66 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นในการสนับสนุนครั้งนี้กว่า 186 ล้านบาท”
นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเสริมว่า “การสนับสนุนรถยนต์โตโยต้า สิ่งของจำเป็น และข้าวสารจากโรงสีข้าวรัชมงคล เกิดจากความร่วมมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ระหว่าง บริษัทฯ กลุ่มผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนโตโยต้า และบริษัทในเครือข่ายครอบครัวโตโยต้าทั้งหมด ภายใต้วัตถุประสงค์ที่จะสนับสนุน และแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฎิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังในปัจจุบัน รวมถึงเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในครั้งนี้”
มร. มิจิโนบุ ซึงาตะ กล่าวปิดท้าย “การสนับสนุนของโตโยต้าในครั้งนี้ ไม่สามารถเทียบได้กับความทุ่มเท และเสียสละของแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางสาธารณสุข รวมไปถึงหน่วยงานกระทรวงมหาดไทย ซึ่งบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รวมถึงเครือข่ายครอบครัวโตโยต้าขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน และสำคัญที่สุดคือคนไทยทุกคน ในการที่จะร่วมกันฝ่าฟันและผ่านพ้นสถานการณ์ไวรัส COVID-19 อันยากลำบากนี้ไปด้วยกันอย่างปลอดภัย”