autolifethailand.tv มีโอกาสได้สัมภาษณ์ มร.หลิว เสวี่ยเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค BYD ออโต อินดัสตรี ก่อนงานฉลองครบรอบ 30 ปี BYD ในวันที่ 18 พ.ย.2024 เนื้อหาการสัมภาษณ์ ในครั้งนี้ทำให้เราได้เห็นทิศทางการดำเนินงาน ของ BYD ในไทย และในโลก “ชัด” ขึ้นไม่น้อย ว่า BYD จะเดินไปในทางใด
อย่างในเรื่องของโรงงาน BYD ในไทย มร.หลิว บอกว่า BYD ต้องการสนับสนุนโรงงานBYD ในไทยให้เติบโตอย่างรวดเร็ว และแข็งแรง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสินค้าของ BYD สู่ตลาดโลก โดยเป้าหมายการผลิตของโรงงาน BYD ในไทยคือปีละ 150,000 คัน คือผลิตทั้งรถ EV ,Hybrid และ phev
โดยโรงงานในไทยจะเป็นโรงงานที่จะผลิตรถยนต์ BYD ทั้งพวงมาลัยซ้าย และ ขวา เพื่อส่งออกในภูมิภาคนี้ โดยปัจจุบัน BYD ประกอบ BYD ATTO3 , BYD DOLPHIN และ SEALION 6 อยู่
อย่าง SEALION 6 พวงมาลัยขวา ที่ขายในบ้านเราในขณะนี้ ก็จะไปเปิดตัวที่ญี่ปุ่นในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะนำเข้าจากประเทศไทย
แต่ที่แน่ๆ โรงงานในไทยในอนาคตจะประกอบเจ้า SHARK 6 รถกระบะเทคโนโลยี phev ที่เพิ่งเปิดตัวที่ ออสเตรเลียไปหมาดๆ แถมมียอดขายสูงถึง 3,000 คันภายในเวลา 3 สัปดาห์เท่านั้น
มร.หลิว ไม่ยอมบอกเราว่า กระบะ BYD SHARK 06 นั้นจะเปิดตัวบ้านเราหรือไม่ แต่เท่าที่เราทราบมา BYD เลื่อนแผนการเปิดตัว กระบะ SHARK 6 ในบ้านเราออกไปจากแผนเดิมที่จะเปิดตัวในไตรมาสแรกของปีหน้า ออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์ตลาดรถกระบะบ้านเราปีนี้อยู่ในอาการย่ำแย่ไม่น้อย จึงทำให้ BYD ขอดูสถานการณ์ในไตรมาสแรกของปีหน้าก่อน ว่าเป็นอย่างไรถึฃจะตัดสินใจอีกครั้ง แต่ เชื่อได้แน่นอนว่า BYD SHARK6 ต้องขายในไทยชัวร์ๆ
นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ แผนการตลาดของ BYD หลังจากนี้ จะหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีในกลุ่ม NEV อย่างเช่น PHEV มากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากยอดจำหน่ายรถยนต์ในกลุ่มนี้เติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศจีน และทั่วโลก โดยส่วนแบ่งการตลาดของรถในกลุ่ม NEV ในจีนมีสัดส่วนมากกว่า 15% ของยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมด และมากกว่า 70% ในเมืองเซิ่นเจิ้น
สำหรับตลาดในประเทศไทยนั้น มร.หลิว ย้ำว่า จะเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ ในกลุ่ม NEV มากขึ้น แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะเป็นรุ่นใด
“ในวันนี้เราเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ EV ในไทย และเราหวังว่าจะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดรถ NEV ในอนาคตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
จากคำพูดเหล่านี้ ทำให้เราเห็น “เค้าราง” แผนการเปิดตัวสินค้ารุ่นต่อๆ ไปของ BYD ในอนาคตอันใกล้ว่าจะเดินหน้าไปสู่ PHEV แบบหนักแน่น แน่ๆ
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ BYD จะเดินหน้าทำตามแผนที่วางไว้ได้ เพราะหากมองตามโครงสร้าง “ภาษี” ของไทย ที่ทำให้ BYD ต้องประกอบรถในกลุ่ม PHEV หรือ Hybrid ในประเทศไทยแทนการนำเข้า เหมือนรถ EV ที่ได้สิทธิทางภาษี
ดังนั้นรถในเทคโนโลยี NEV ที่ทำตลาดในไทยต้อง ”ผลิต“ ที่ไทย และต้อง ”ส่งออก“ ไปจำหน่ายยังประเทศอื่นด้วย เพื่อความคุ้มค่าในการผลิต ทำให้ โมเดล หรือรุ่นรถที่จะผลิตนั้นมีความจำกัดมากขึ้น
ซึ่งก็ต้องรอดูว่า BYD จะเดินหมากในกระดานนี้อย่างไร แต่หากมองในทิศทางของเทคโนโลยี และการตอบรับ รวมถึงความพร้อมของตลาดในบ้านเรา เทคโนโลยี
PHEV หรือ EREV หรือ REEV ล้วนแล้วแต่เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าชาวไทย มากกว่า เทคโนโลยี BEV ซึ่งทาง BYD เองก็ต้อวสร้างการรับรู้ในตลาด phev ให้มากขึ้นกว่าเดิม
นั่นคือทิศทางในอนาคตที่ BYD มองไว้ และเมื่อหันกลับมามองถึงการทำตลาดใน “ปัจจุบัน” ของ BYD ที่เราเห็นการลดราคาจาก BYD ในหลายๆรุ่นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่ง มร.เลี่ยว บอกว่า
“ราคาเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่ลูกค้าคำนึงถึง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ BYD ต้องการให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ สัมผัสกับคุณค่าของสินค้ามากกว่า”
หากแปลตามคำพูดของ มร.เลี่ยว ก็หมายความว่า การทำสงครามราคา ก็คือหนึ่งในกลยุทธ์การตลาด เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ BYD ได้ง่ายขึ้น ในราคาที่จับต้องได้
ซึ่งหากมองในความเป็นจริง ก็ต้องบอกว่า “ใช่” เพราะลูกค้าจำนวนไม่น้อยก็รอการลดราคาของ BYD เช่นกัน แต่เรื่องนี้เหมือนกับเป็นดาบสองคม เพราะกลยุทธ์ด้านราคานั้นทำให้แบรนด์ของ BYD ดูไม่ดีเช่นกัน แต่ที่ มร.เลี่ยว ย้ำอีกก็คือเรื่องคุณภาพของสินค้า และคุณภาพในเรื่องบริการหลังการขายที่ต้องพัฒนาให้ดีมากขึ้น และเป็นมาตรฐานที่ดีมากขึ้น ไม่ใช่เน้นแต่กลบยุทธ์ราคาแต่เพียวอย่างเดียว
ก็ต้องมารอดูกันต่อไปครับว่า กลยุทธ์การตลาดของ BYD ในประเทศไทยนั้นจะเดินหน้าไปอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ในอนาคตอันใกล้ รถยนต์ในกลุ่มเทคโนโลยี NEV ต้องเดินหน้าเข้ามาในตลาดบ้านเราอย่างต่อเนื่องแน่ๆ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องมารอลุ้น ราคา กันต่อไปว่า ราคาของ รถในกลุ่ม NEV จะ ดุเดือด แค่ไหน แต่จากที่เห็นการ์ตั้งราคา BYD SEALION 6 DM-i บอกได้เลยว่า BYD มาโหดแน่ๆ
และนี่กำลังจะเป็น “พายุ” ลูกใหม่ ของค่ายรถญี่ปุ่น ที่ต้องเจอกับเทคโนโลยี Hybrid ในราคาที่คาดไม่ถึง!!