มาสด้า เตรียมเปิดตัวมาสด้า CX-30 รถCrossOver SUV ในวันที่ 6 มีนาคม 2563 นี้ โดยเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ที่ใส่ในมาสด้า 3 ใหม่ ยังไม่ใช่เครื่องยนต์ในตระกูล SkyActive X อย่างที่แฟนๆ เฝ้าคอย ส่วนราคาค่าตัวคาดว่าน่าจะอยู่ที่เกือบๆ 1 ล้านบาท
มาสด้า CX-30 เป็นรถยนต์กลุ่ม รถCrossOver SUV ของมาสด้าเห็นได้จากรหัสท้ายที่เป็นตัวเลข 2 หลัก คือ 30 ซึ่งถือว่าเป็นรถรุ่นแรกของมาสด้าที่มีรหัสลงท้ายด้วยเลข 2 หลัก ซึ่งก็สร้างความงุนงงให้กับวงการรถไม่ใช่น้อยว่าเจ้าตัวเลข 2 ตัวนี้มีความหมายอย่างไร เพราะที่ผ่านมาตัวเลขด้านหลังของมาสด้าเป็นตัวเลขหลักหน่วยมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นเลข 2,3,5,7,8 และ9 ซึ่ง 30 เป็นรหัสแรกที่เป็นเลข 2 หลัก
CX-30 เป็นรถในกลุ่ม Cross Over เช่นเดียวกับ มาสด้า CX-3 แต่มีการออกแบบห้องโดยสารภายในที่มีขนาดใหญ่กว่า CX-3 แต่สัดส่วนฐานล้อเท่ากับมาสด้า CX-3 ในทุกมิติ เครื่องยนต์ก็ยังใช้ของ CX-3 ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตุว่าเจ้า CX-30 จะมาแทน CX-3 หรือไม่
แต่คำตอบคือ ไม่!! ทั้งคำตอบจากมาสด้า ที่ประเทศญี่ปุ่น และมาสด้า ประเทศไทย ต่างยืนยันว่าจะยังคงทำตลาดมาสด้า CX-3 ต่อไปอย่างแน่นอน
การที่มาสด้ายังคงทำตลาด CX-3 และ CX-30 ควบคุ่กันไปในแบบที่ใครต่อหลายคนไม่เข้าใจ เพราะหากมองในเรื่องของยอดขาย CX-3 ไม่ตอบโจทย์ยอดขายในทุกประเทศที่ขาย แม้ว่าหน้าตา รูปลักษณ์ รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ของ CX-3 จะยอดเยี่ยมเพียงใดก็ตาม
แต่ความคับแคบของที่นั่งผู้โดยสารตอนหลังและพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่เล็กมากๆ คือ “จุดอ่อน” ที่ทำให้มาสด้า CX-3 ไปต่อได้ยากมากในตลาดเมืองไทยและตลาดโลก
นั่นคือสาเหตุการมาของมาสด้า CX-30 ที่ถูกออกแบบให้ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ขึ้น พื้นที่ใช้สอยภายในรถมีมากขึ้น แต่ยังรักษาจุดเด่นในเรื่องของความเป็นรถ CrossOver ขนาดเล็กเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น สอดคล้องกับความต้องการรถยนต์ในตลาดโลก ที่เวลานี้กำลังมุ่งเป้าไปที่รถยนต์ SUV ขนาดเล็ก และมาสด้า CX-30 ก็ตอบโจท์นั้นได้อย่างลงตัว
ในประเทศไทย มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จะเปิดตัวมาสด้า CX-30 ในวันที่ 6 มีนาคม 2563 ที่จะถึงนี้ โดยเจ้ามาสด้า CX-30 จะถูกวางด้วยเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 15.9 กิโลเมตร/ลิตร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งเจ้าเครื่องยนต์ตัวนี้ เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับที่วางในมาสด้า 3 ใหม่นั่นเอง
แต่น่าสนใจคือ มาสด้า CX-30 ไม่มีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตรเทอร์โบ อันลือเลื่องของมาสด้าที่ใส่ใน CX-3 มาใส่ไว้ใน CX-30 แต่อย่างใด
และจุดเด่นที่น่าสนใจของมาสด้า CX-30 คือโครงสร้างตัวถังใหม่มาสด้า CX-30 ที่การันตีความปลอดภัยระดับโลก โดยโครงสร้างตัวถังของ CX-30 ใช้แพลตฟอร์มเจนเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE เช่นเดียวกับมาสด้า 3 ที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการอัตราเร่งและการประหยัดเชื้อเพลิงที่มากขึ้นด้วย
ดังนั้นโครงสร้างของ มาสด้า CX-30 จึงใช้เหล็กกล้าคุณภาพสูง High Tensile Steel ที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งมาทดแทนโครงเหล็กซึ่งจะส่งผลให้น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้น และเป็นภาระต่อการควบคุมขับขี่ เทคโนโลยีใหม่นี้ยังสามารถจัดการกับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบวงแหวนหลายทิศทาง (Multi-directional Ring Structure) ที่รองรับแรงกระทำได้รอบทุกทิศทาง สามารถกระจายแรงปะทะที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมไปถึงผู้ใช้ถนนได้อีกด้วย
ล่าสุดเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE นี้ได้ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกมาแล้ว ทั้งยุโรปและออสเตรเลีย ดังนั้น มาสด้าจึงเป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวี ที่มีความคล่องตัว สมรรถนะสูงที่มาพร้อมกับพื้นที่ใช้สอยที่เป็นอรรถประโยชน์
ส่วนราคาค่าตัวของ CX-30 นั้นต้องสูงกว่ามาสด้า CX-3 โดยคาดว่าจะอยู่ในระดับราคาประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องรอลุ่นกันว่าราคาสุดท้ายของ มาสด้า CX-30 นั้นจะอยู่ที่เท่าไหร่