ทราบหรือไม่ครับ การที่ “ ไฟเตือนน้ำมันเครื่อง ติด ” หากเราเพิกเฉยต่อมัน อาจจะก่อให้เกิดเรื่องใหญ่กว่าที่เราคาดมากนะครับ
เมื่อเราเป็นผู้ใช้รถ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ เราต้องคอยสังเกตุรถของเราอยู่สม่ำเสมอ และอย่าละเลยกับสัญญาณเตือน ต่างๆ ภายในรถ ซึ่งในวันนี้ เราจะคุยถึง หาก “ไฟเตือนน้ำมันเครื่องยนต์” ติดขึ้นมา อย่าชะล่าใจ เพราะอาจจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่กว่าที่คิด และเราควรต้องรู้ว่า มันเกิดจากอะไร และเราควรทำตัวอย่างไร หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้
ก่อนอื่น เราต้องทราบสาเหตุที่ ไฟเตือนน้ำมันเครื่อง ติดเสียก่อน ว่าเกิดจากอะไรบ้าง
หลักๆ เลย คือ “น้ำมันเครื่อง” ไม่สามารถหมุนเวียนได้ในระบบ ทำให้ระบบจับได้ว่า น้ำมันเครื่องมีแรงดันต่ำกว่ามาตรฐาน ไฟเตือนน้ำมันเครื่องจึงติดขึ้นมา โดยอาจะเกิดจากหลายสาเหตุ ได้ดังนี้
- การเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ซีลยางรั่ว ไส้กรองน้ำมันเครื่องสกปรก ปั๊มน้ำมันเครื่องเสีย เซ็นเซอร์วัดแรงดันน้ำมันเครื่องเสีย
- น้ำมันเครื่องแห้ง หรือต่ำกว่ามาตรฐาน
- รถเกิดการกระแทกจนอ่างน้ำมันรั่ว ประเก็นฝาสูบแตกทำให้น้ำมันเครื่องรั่วไปที่ห้องเผาไหม้หรือระบบระบายความร้อน
- หรือหากมีการดัดแปลงเครื่องยนต์ อาจจะทำให้ตัวยึดต่างๆ ไม่แน่น
** หากไฟเตือนขึ้นเช่นนี้แล้ว และเรายังขับรถต่อไปอาจจะทำให้ ชาฟต์ละลาย หรือถ้าหนักหน่อยก็อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายทั้งระบบจนต้องยกเครื่องใหม่ทั้งหมด
ดังนัั้นข้อควรปฏิบัติเมื่อพบว่า “ไฟเตือนน้ำมันเครื่องติด” คือควรต้องหาที่จอด และดับเครื่อยนต์ในทันที เพื่อทำการตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้
- ตรวจหาร่องรอยการรั่วซึม หรือดูว่ามีน้ำมันเครื่องหยดที่พื้นหรือไม่
- หากไม่พบรอยรั่วซึม รอสักพัก และมาเช็คระดับน้ำมันเครื่อง โดยดึงก้านวัดขึ้นมาเช็ค หากระดับน้ำมันเครื่องต่ำ จะต้องเติมน้ำมันเครื่องให้เต็ม (ควรอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญ)
- ลองสตาร์ทเครื่องอีกครั้ง หากไฟเตือนน้ำมันเครื่องยังติดอยู่ ควรติดต่อรถลากเพื่อเข้าศูนย์บริการมาตรฐานเพื่อให้ช่างผู้ชำนาญช่วยตรวจสอบ
ขอบคุณที่มาจาก toyotabuzz
วิเคราะห์ เจาะลึก ทุกข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา กับผม นิธิ ท้วมประถม
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสาร ข่าวรถยนต์ รถใหม่ สกู๊ปพิเศษ ลองขับ อย่าลืมติดตามเรา ช่องยูทูป – auto lifethailand tv
ติดต่อโฆษณา
Project Manager (คุณแอม)
โทร. 089 533 5115
Email : autolifethailand@gmail.com
หรือ Inbox ได้ทาง Facebook Fanpage https://www.facebook.com/autolifethailand.tv
