เช็กภาษีรถประจำปีได้จากที่ไหนบ้าง เรื่องสำคัญที่คนมีรถต้องรู้

เช็กภาษีรถประจำปีได้จากที่ไหนบ้าง เรื่องสำคัญที่คนมีรถต้องรู้

เรื่องที่เขย่าขวัญคนมีรถ หนึ่งในนั้นก็คือ รถภาษีขาด!! ใช่แล้วค่ะ หลายครั้งที่เรามักจะทำงานยุ่งจนลืมที่จะต่อภาษีรถและขาดไปอย่างที่เราไม่ทันจะนึกขึ้นได้ด้วยซ้ำ ที่ร้ายไปกว่านั้น วันดีคืนดีถูกตำรวจเรียก อาจจะโดนแจ็คพ็อต ถูกปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่หากขาดเกิน 3 ปี ก็จะถูกระงับการใช้ทะเบียนอีกด้วย ถ้าอย่างนั้น เราก็ควรต้องเช็คภาษีรถประจำปี เพื่อที่จะสามารถต่อภาษีได้ทันก่อนที่จะหมดอายุ แต่จะเช็กได้จากที่ไหนบ้างล่ะ?

รู้ยัง เช็กภาษีรถไม่ต้องไปถึงขนส่งนะ!

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีมาตรการต่าง ๆ ออกมา โดยกรมขนส่งทางบก ได้เปิดให้ประชาชนสามารถต่อภาษีรถยนต์พร้อมเช็คภาษีผ่านระบบออนไลน์ได้ สำหรับการต่อภาษีรถนั้น มีเงื่อนไขที่ว่าต้องเป็นรถยนต์ที่อายุยังไม่เกิน 7 ปี หรือรถจักรยานยนต์มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี รอรับเครื่องหมายการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 5 วันทำการ นับจากวันชำระเงิน ส่วนการเช็คภาษีรถ สามารถเช็ควันหมดอายุด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ผ่านทางช่องทางเว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ ซึ่งสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/ ของกรมขนส่งทางบก
2. ใครที่ยังไม่เคยลงทะเบียน จะต้องเลือกลงทะเบียนสมาชิกใหม่ พร้อมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
3. หลังจากลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ log in เข้าสู่ระบบ
4. เลือก ชำระภาษีรถประจำปี > ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต
5. หากจดทะเบียนรถยนต์เป็นชื่อของตัวเอง ระบบจะแสดงรายชื่อรถยนต์อัตโนมัติ แต่หากไม่ใช่ ให้คลิกที่ ลงทะเบียนรถ กรอกข้อมูลให้ถูกต้อง แล้วกดบันทึก
6. ระบบจะแสดงชื่อและทะเบียนรถยนต์ที่ถูกต้อง คลิกเลือก ยื่นชำระภาษี
7. เมื่อเข้ามาในหน้าข้อมูลการยื่นชำระภาษี ระบบจะแสดงข้อมูลทั้งหมด ทั้งรายละเอียดรถ, วันสิ้นอายุภาษี และวันสิ้นอายุภาษีครั้งต่อไป พร้อมจำนวนเงินที่ต้องชำระ

นอกจากนี้ ยังสามารถเช็กผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ได้ทันทีอีกด้วย

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

สำหรับการต่อภาษีรถประจำปี ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax เมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแสดงหลักฐานการชำระภาษีรถประจำปีชั่วคราวเพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงการชำระภาษีจนกว่าจะได้รับเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีจากกรมการขนส่งทางบก โดยสามารถเลือกช่องทางรับเครื่องหมายการเสียภาษี ได้ทั้งทางไปรษณีย์ ซึ่งจะได้รับภายใน 5 วันทำการ หรือสำหรับผู้ที่อาศัยในกรุงเทพมหานคร สามารถเลือกพิมพ์เครื่องหมายการเสียภาษีได้ด้วยตนเองที่ตู้ Kiosk ที่ติดตั้งในสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่
1-5 ได้อีกหนึ่งช่องทาง ส่วนรถที่ไม่มีเงื่อนไขต้องตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีสามารถดำเนินการได้ทันที

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ได้อีกหนึ่งช่องทาง ส่วนรถที่ไม่มีเงื่อนไขต้องตรวจสภาพรถก่อนชำระภาษีสามารถดำเนินการได้ทันที เช่น รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ท่าน มีอัตราค่าใช้จ่าย ดังนี้

• 600 ซีซีแรก 50 บาทต่อซีซี
• 601 – 1,800 ซีซีละ 1 บาท 50 สตางค์
• เกิน 1,800 ซีซีละ 4 บาท

นั่นหมายความว่า ยิ่งรถยนต์ซีซีสูงเท่าไหร่ อัตราการเก็บภาษีก็จะสูงขึ้นนั่นเองค่ะ รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมเช็กวันภาษีหมดอายุ และชำระภาษีแบบล่วงหน้าดีกว่าค่ะ เพราะจะได้เผื่อว่าเราลืมต่อ ไม่เช่นนั้นทะเบียนอาจจะขาดไม่รู้ตัว อีกทั้ง ช่องทางอื่น ๆ ที่ยังสามารถชำระภาษีรถประจำปีได้ เช่น เคาน์เตอร์เซอร์วิส, แอปพลิเคชัน mPAY และ Truemoney Wallet

ดังนั้น เราก็ได้รู้กันแล้วนะคะว่าจะสามารถเช็กภาษีรถประจำปีก่อนที่จะหมดอายุได้จากที่ไหนบ้าง ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่ไหนก็ได้ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต

ติดต่อโฆษณา

Project Manager (คุณแอม)

โทร. 089 533 5115

Email : autolifethailand@gmail.com

หรือ Inbox ได้ทาง Facebook Fanpage https://www.facebook.com/autolifethailand.tv

รีวิวรถยนต์ ข่าวแบรนด์รถยนต์ ไลฟ์สไตล์ รถใหม่