Honda CR-V e:FCEV เปิดตัวที่สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2024 ในฐานะรถยนต์คันแรกของค่ายที่ได้ใช้ขุมพลัง Honda Fuel Cell Module แบบใหม่ล่าสุด ซึ่งพัฒนาขึ้นร่วมกับ General Motors (GM) เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กัน รวมทั้งลดต้นทุนไปได้ 2 ใน 3 นอกจากนั้น CR-V e:FCEV ยังเป็นรถยนต์นั่งขุมพลัง FCEV คันแรกที่ผลิตขึ้นในสหรัฐฯ จากโรงงานใน Performance Manufacturing Center รัฐ Ohio
Honda CR-V e:FCEV ออกแบบมาให้แตกต่างจากรุ่นย่อยอื่นด้วยชิ้นส่วนตัวถังเฉพาะรุ่นทั้งฝาท้าย, ไฟท้ายแนวตั้ง และล้อสีดำลาย 10 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว เสริมด้วยกระจังหน้าแนวนอน และปรับฝากระโปรงหน้าใหม่ให้รับกัน ทั้งยังมีสเกิร์ตหน้าและแผ่นปิดใต้ท้องรถทั้งหมด อีกลูกเล่นที่น่าสนใจคือมีระบบ Honda Power Supply Connector สำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าขนาด 110 โวลต์ 1,500 วัตต์
Honda CR-V e:FCEV รองรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง มาตรวัดมีขนาด 10.2 นิ้ว หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย รวมทั้งมีการปรับแต่ง HondaLink ให้แสดงตำแหน่งที่ตั้งของสถานีไฮโดรเจน ทำงานร่วมกับลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง รักษ์โลกด้วยการนำวัสดุหนัง bio มาตกแต่งเป็นหลัก พร้อมอำนวยความสะดวก ด้วยระบบปรับอุณหภูมิทั้งเบาะและพวงมาลัย
ขุมพลังของ Honda CR-V e:FCEV เป็น Fuel Cell Module เจนเนอเรชั่นที่สอง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวติดตั้งด้านหน้า กำลังสูงสุด 174 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร แบตเตอรี่มีความจุ 17.7 kWh รองรับการชาร์จ Plug-in Level II ให้ขับขี่ได้ไกลสุดด้วยพลังงานไฟฟ้าจากการชาร์จราว 47 กิโลเมตร หากเติมเชื้อเพลิง Compressed Hydrogen Gas เต็มถังขนาด 4.3 กิโลกรัม จะขับขี่ได้ไกลสุด 435 กิโลเมตร รูปแบบการขับขี่ปรับได้ 4 แบบ ประกอบด้วย Normal, Eco, Sport และ Snow
ช่วงล่างและโครงสร้างตัวถังของ Honda CR-V e:FCEV ปรับใหม่ให้แตกต่างจากรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป โดยโครงสร้างตัวถังแข็งแรงขึ้น ช่วงล่างทั้งด้านหน้า MacPherson strut, ด้านหลัง multilink, โช็คอัพ, สปริง และเหล็กกันโคลง ล้วนผ่านการปรับแต่งใหม่ให้ตอบสนองดี แต่ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวล ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มี Honda Sensing สำหรับการออกจำหน่าย จะให้บริการลูกค้าเช่าซื้อใน California ก่อนโดยจะเริ่มภายในปีนี้
ที่มา: Honda