นายบิล จาง ผู้อำนวยการบริหารแบรนด์ OMODA & JAECOO (Thailand) เปิดเผยว่า ภายหลังการเปิดตัว JAECOO 5 EV ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันส่งผลให้ยอดขายรวมของบริษัทเกินเป้าหมายที่วางไว้เดิม 10,000 คัน ภายในปีนี้ โดยยอดขาย 7 เดือน (มกราคม–กรกฎาคม) อยู่ที่ 2,700 คัน ซึ่งคาดว่า JAECOO 5 EV รุ่นเดียวจะมียอดขายอยู่ที่ 8,000 คัน
ทั้งนี้ แผนการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของแบรนด์จะเปิดตัวอีกจำนวน 3 รุ่น ในสิ้นปีนี้ โดยในปีหน้าบริษัทจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมในกลุ่มพลังงานทางเลือกได้แก่ PHEV, REEV, BEV เป็นต้น และคาดว่าในปี 2569 จะมียอดขายอยู่ที่ 25,000 คัน
นอกจากนี้ ปัจจุบัน JAECOO 5 EV มียอดจองไปมากกว่า 4,000 คัน โดยมากว่าโปรโมชั่นพิเศษที่เปิดให้จองราคาและข้อเสนอพิเศษจำนวนแค่ 1,000 คันเท่านั้น โดยจำนวนที่เกินมาบริษัทยืนยันว่าลูกค้าจะได้รับสิทธิ์ข้อเสนอพิเศษเดียวกันและขยายสิทธิ์จนครบ 5,000 สิทธิ์ โดยจะต้องจองภายในสิ้นเดือน สิงหาคม นี้ และรับรถภายในสิ้นเดือน ก.ย. นี้
ขณะที่ บริษัทมีแผนการขยายศูนย์จำหน่ายและบริการ (โชว์รูม) จากปัจจุบันมีจำนวนอยู่ที่ 45 แห่ง และทยอยเพิ่มขึ้นเป็น 50 แห่ง โดยภายในสิ้นปีนี้จะมีจำนวน 70 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงแผนการสต๊อกชิ้นส่วนที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะ JAECOO 5 EV ที่ปัจจุบันมีชิ้นส่วนที่สต๊อกจำนวนมากกว่า 94% ของปริมาณรถยนต์ที่จำหน่าย ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่บริษัทวางแผนล่วงหน้า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : OMODA & JAECOO ชูกลยุทธ์ตั้งราคาตัดสินใจได้ไม่ลังเล หวังดันยอดขายโต
สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันบริษัทมีการทำงานร่วมกับผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) และสำนักงานใหญ่ที่ประเทศจีน ที่ทำให้บริษัทสามารถตั้งราคาได้อย่างถูกต้อง โดยได้มีการศึกษาความเป็นไปได้อย่างสมเหตุสมผล โดยหลังจากนี้จะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งมีการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันและการวางราคาที่แตกต่างกัน
“การเปิดตัว JAECOO 5 EV จะส่งผลให้หลังจากนี้ผลักดันให้ทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทขายดี โดยเฉพาะในปีหน้าที่การสิ้นสุดมาตรการสงเสริมรถยนต์ไฟฟ้าทำให้บริษัทไปโฟกัสในเทคโนโลยีอื่น ๆ ทดแทนรถยนต์ไฟฟ้า”
สำหรับ ภาพรวมตลาดรถยนต์ในปีนี้มองว่าจะอยู่ในระดับทรงตัวที่ 5.6 – 5.7 แสนคัน โดยสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันมีสัดส่วนในระดับที่มากกว่า 24% ซึ่งหากรักษาในระดับไว้ได้เช่นนี้จะทำให้บริษัทยังมองเห็นโอกาสทางธุรกิจที่เติบโตไปได้
อย่างไรก็ตาม ในปี 2569 บริษัทมีแผนที่จะประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศในรุ่น JAECOO 5 EV และ JAECOO 6 EV โดยคาดว่า จะเริ่มประกอบภายใน ไตรมาส 4/2568 โดยโรงงานดังกล่าวใช้การผลิตร่วมกันกับแบรนด์ เชอรี (CHERY) ด้วยเงินลงทุนราว 5,000 ล้านบาท