slide 1
slide 1
Image Slide 2
Image Slide 2
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
Homeข่าวสารข่าวรถยนต์BYD Atto 3 รถไฟฟ้า100% รุ่น Standard Range แบต 50.1 kWh เตรียมเปิดราคาในไทย 11...

BYD Atto 3 รถไฟฟ้า100% รุ่น Standard Range แบต 50.1 kWh เตรียมเปิดราคาในไทย 11 พฤศจิกายน นี้ !

หลังจากที่ Rever Automotive ผู้จัดจำหน่าย และ ให้บริการหลังการขายรถยนต์แบรนด์ BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่เพียงผู้เดียว (Thailand Authorized Distributor) เปิดตัว และ ประกาศราคา BYD Atto 3 ไปเมื่อ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ด้วยรุ่น Extended Range ราคา 1,199,000 บาท ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมส่งมอบ 1 พฤศจิกายน 2022 นี้

ล่าสุด เตรียมเปิดตัว BYD Atto 3 รุ่น Standard Range แบตเตอรี่ขนาด 50.1 kWh วันที่ 11.11 (11 พฤศจิกายน) นี้ ! เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้กับลูกค้าชาวไทย รอติดตามราคาอย่างเป็นทางการกันได้เลยครับ

BYD Atto3 รถไฟฟ้า100%

ราคาอย่างเป็นทางการ

  • Atto 3 Standard Range  1,0xx,000 บาท*
  • Atto 3 Extended Range  1,199,900 บาท**

*รุ่น Standard Range 50.1 kWh เตรียมเปิดราคาอย่างเป็นทางการในไทย 11 พฤศจิกายน นี้ !

** หลังรวมส่วนลดโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า100% ตามมาตรการรัฐบาล + ลดภาษีสรรพสามิตใหม่ จาก 8% เหลือ 2% จากราคาเต็ม 1,459,000 บาท ส่วนลด 259,100 บาท เหลือ 1,199,900 บาท

BYD โดย Rever Automotive ผู้จัดจำหน่าย และ ให้บริการหลังการขายรถยนต์แบรนด์ BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่เพียงผู้เดียว (Thailand Authorized Distributor) ผ่านดีลเลอร์ทั่วประเทศกว่า 32 แห่ง ในปี 2565 นี้ เปิดรับจอง และ ทดลองขับได้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป พร้อมส่งมอบรถได้ 5,000 คัน ภายในปี 2022 นี้ !

BYD Atto 3 รถไฟฟ้า100% กวาดยอดจองในไทย 2,507 คัน ภายใน 24 ชั่วโมงแรก ที่เปิดรับจองแบบ walk-in Offline ! ยืนยันพร้อมส่งมอบภายในปี 2022 นี้ รวม 5,000 คัน

• โควต้า พร้อมส่งมอบ 5,000 คัน ในปี 2022 นี้ รวมทั้ง 2 รุ่น คือ Extended Range แบต 60.4 kWh และ Standard Range 50.1 kWh ที่เตรียมจะเปิดราคาอย่างเป็นทางการ 11.11 (11 พฤศจิกายน นี้)

• Rever Automotive เตรียมขอโควต้าสั่งรถเพิ่มอีก 3,000 คัน คาดว่าจะมาถึงไทย ในเดือน มกราคม 2023

• สีขาว Frost White คือ สีที่ได้รับยอดจองเข้ามามากที่สุด รองลงมาคือ สีเทา Graphite Grey

• สีเขียว Emerald Green คือ สีที่ถูกลูกค้าถามถึงมากที่สุด อยากเห็นรถคันจริง และ ต้องเพิ่มโควต้าการสั่งรถสีนี้ เนื่องจากมีความต้องการ มากกว่าที่คาดเอาไว้

• หากใครอยากรับรถเร็ว อาจต้องเลือก สีฟ้า Blue Lagoon หรือ สีแดง Solar Red

มาพร้อมการรับประกัน และ บริการหลังการขาย Rever Care มูลค่ารวม 180,000 บาท ดังนี้

  • รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 8 ปี 160,000 km.
  • รับประกันแบตเตอรี่ นาน 8 ปี หรือ 160,000 km.
  • ฟรี ค่าบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ นาน 8 ปี
  • ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน นาน 8 ปี
  • ฟรี Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง
  • ฟรี สายพ่วงต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอก VTOL
  • ฟรี ค่าจดทะเบียน
  • ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี (วิริยะ, นวกิจ, ทิพยะ)
  • ดอกเบี้ยพิเศษ 1.68% นาน 48 เดือน (กรุงศรีออโต้, กสิกรไทย)

Dimension มิติตัวถัง

  • ยาว  4,455 มิลลิเมตร
  • กว้าง  1,875 มิลลิเมตร
  • สูง  1,615 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ wheelbase  2,720 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดถึงพื้น ground clearance  175 มิลลิเมตร
  • ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย  440 – 1,340 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)

เทียบกับรถกลุ่ม B-SUV / Crossover พบว่า BYD Atto 3 จะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆของกลุ่มรถขนาดพิกัดนี้

  • Haval Jolion : 4,472 x 1,841 x 1,619 มม. / ฐานล้อ 2,700 มม.
  • Honda HR-V : 4,385 x 1,790 x 1,590 มม. / ฐานล้อ 2,610 มม.
  • Toyota Corolla Cross : 4,460 x 1,825 x 1,620 มม. / ฐานล้อ 2,640 มม.
  • Mazda CX-30 : 4,395 x 1,795 x 1,540 มม. / ฐานล้อ 2,655 มม.
  • Nissan Kicks : 4,384 x 1,813 x 1,656 มม. / ฐานล้อ 2,673 มม.
  • Peugeot 2008 : 4,300 x 1,770 x 1,530 มม. / ฐานล้อ 2,650 มม.
  • MG ZS EV : 4,323 x 1,809 x 1,649 มม. / ระยะฐานล้อ 2,585 มม.
  • BYD Atto 3 : 4,455 x 1,875 x 1,615 มม. / ระยะฐานล้อ 2,720 มม.

Powertrain ขุมพลัง

Standard Range 50.1 kWh (NEW)

มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor พละกำลัง 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ BYD Blade Battery Lithium-ion phosphate (LFP) ขนาด 50.1 kWh

  • วิ่งระยะทางสูงสุด 410 km. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)
  • วิ่งระยะทางสูงสุด 345 km. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน WLTP)

Extended Range 60.4 kWh

มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor พละกำลัง 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ BYD Blade Battery Lithium-ion phosphate (LFP) ขนาด 60.48 kWh พร้อมระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) 2.2 kW (2,200 Watts) จ่ายพลังงานจากรถ สู่เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้

  • วิ่งระยะทางสูงสุด 480 km. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)
  • วิ่งระยะทางสูงสุด 420 km. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน WLTP)
  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ใน 7.3 วินาที


Charging การชาร์จไฟฟ้า

หัวชาร์จแบบ Type 2 / CCS Combo พร้อมระบบจ่ายไฟฟ้าจากตัวรถ VTOL Mobile Power Supply Function (V2L : Vehicle to Load) 2.2 kW หรือ 2,200 Watts

Extended Range 60.4 kWh

  • กระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 7 kW ใช้เวลา 0-100% ภายใน 8 ชั่วโมง 30 นาที
  • กระแสตรง DC Fast Charging รองรับสูงสุด 80 kW จาก 30-80% ภายใน 30 นาที

Exterior ภายนอก

  • ช่วงล่าง
    • ด้านหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
    • ด้านหลัง Multi-Link
  • ระบบเบรก
    • ด้านหน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
    • ด้านหลัง ดิสก์เบรก
  • ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/55 R18
  • หลังคากระจก Panoramic Glassroof พร้อมม่านบังแดด เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
  • กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า
  • กระจกมองข้าง พับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ
  • กระจกมองข้าง พร้อมระบบอุ่น Heated Mirror
  • ไฟหน้าแบบ LED High-Low Beam
  • ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
  • ระบบไฟหน้า Follow-me-home
  • ไฟท้ายแบบ LED
  • ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า Automatic Tailgate
  • ราวหลังคาสีเงิน

Interior ภายในห้องโดยสาร

  • ภายในห้องโดยสาร สีทูโทน น้ำเงิน-เทา
  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
  • สวิตซ์ควบคุมหน้าจอ Multi-function บนพวงมาลัย
  • พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPAS
  • สวิตซ์เปลี่ยนเกียร์แบบ Finger-touched Electronic Shift
  • มาตรวัดแบบ Full Digital ขนาด 5.0 นิ้ว
  • ระบบกุญแจ Keyless Entry
  • กระจกหน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบ One-touch 4 บาน
  • ระบบป้องกันการหนีบ Anti-Pinch
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • กรองอากาศ PM 2.5
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electronic Parking Brake : EPB
  • ฟังก์ชั่น Auto Brake Hold

Seating เบาะนั่ง

  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง สีทูโทน แบบเจาะรู Perforated
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง
  • ระบบอุ่นเบาะนั่งคู่หน้า
  • เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40
  • ที่วางแขนตรงกลางเบาะนั่งด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ

Entertainment ระบบความบันเทิง

  • หน้าจอกลาง ระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 12.8 นิ้ว
  • หน้าจอกลาง หมุนแนวตั้ง – แนวนอน ด้วยระบบไฟฟ้า Intelligent Rotating
  • เครื่องเสียงรองรับ วิทยุ AM/FM
  • ระบบเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth
  • รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay / Android Auto (ภายในปี 2023)
  • หน้าจอรองรับ ภาษาไทย / ภาษาอังกฤษ / ภาษาจีน
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง Dirac HD Sound
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition
  • ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
  • ช่องเชื่อมต่อ USB Type A / Type C 2 ตำแหน่ง ด้านหน้า
  • ช่องเชื่อมต่อ USB Type A / Type C 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ช่องชาร์จไฟ 12V

Safety ระบบความปลอดภัย

  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค Anti-lock Braking System : ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก Electronic Brake Force Distribution : EBD
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Program : ESP
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control System : TCS
  • ระบบเบรกอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking System : AEB
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า Front Collision Warning : FCW
  • ระบบเตือนเปลี่ยนเลน Lane Departure Warning : LDW
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Keeping Assist : LKA
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control with Stop & Go
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist : HMA
  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
    • คู่หน้า 2 ตำแหน่ง
    • ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
    • ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง
    • ด้านข้างฝั่งซ้ายคนขับ 1 ตำแหน่ง
  • ระบบเตือนแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย เบาะนั่งคู่หน้า
  • จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX
  • กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
  • กล้องบันทึกเหตุการณ์ด้านหน้าแบบ Built-in Cam Recorder
  • เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
  • เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
  • ชุดปะยางฉุกเฉิน
  • ที่ชาร์จไฟฟ้าแบบฉุกเฉิน

สีตัวถังภายนอกในตลาดโลก มีให้เลือก 5 สี

  • สีแดง Solar Red
  • สีฟ้า Lagoon Blue
  • สีเขียว Emerald Green
  • สีเทา Graphite Grey
  • สีขาว Frost White

ภายในห้องโดยสาร สีทูโทน น้ำเงิน Eclipse Blue – เทา Hazy Grey

    

9 กันยายน 2565 : BYD แสดงเจตจำนงเซ็น MOU กับ กรมสรรพสามิต เพื่อเข้าร่วมโครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า100% ของรัฐบาลไทย จะทำให้รถยนต์ไฟฟ้า100% ที่นำเข้ามาได้รับส่วนลด 150,000 บาท + ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% จาก 8% เหลือ 2%

ภายใต้ข้อกำหนดเดียวกันกับแบรนด์รถยนต์ค่ายอื่น หากนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า 100% มาขาย 1 คัน จะต้องผลิตในประเทศให้ได้จำนวน 1 เท่า ภายในปี 2567 (2024) หรือ ขยายระยะเวลาเป็นภายในปี 2568 (2025) แต่ต้องผลิต 1.5 เท่า นั่นเอง

โดยมี คุณณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต ร่วมในงานแถลงข่าวครั้งนี้ พร้อมกับทางฝั่งของ BYD ดังนี้

  • เคอ ยู่ปิน (Ke Yubin) ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด
  • หลิว เสวียเลี่ยง (Liu Xuelinang) ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด
  • คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rever Automotive จำกัด
  • คุณประธานพร พรประภา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Rever Automotive จำกัด


เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 : BYD บริษัทแม่จากประเทศจีน เซ็นสัญญา WHA Group ซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมระยอง 36 (EEC) 600 ไร่ เตรียมตั้งโรงงานผลิตรถไฟฟ้า 100% และ รถยนต์ Plug-in Hybrid ในไทย ถือเป็นโรงงานแห่งแรกของ BYD ในภูมิภาคอาเซียน
 
สัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าว ลงนามวันนี้ 8 กันยายน 2565 โดย
 
  • นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
  • เดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
  • หลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด
  • เค่อ หยู่ปิน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี (ประเทศไทย) จำกัด

โดยโรงงานผลิตรถไฟฟ้า 100% และ Plug-in Hybrid ของ BYD ตั้งอยู่พื้นที่ 600 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรม WHA ระยอง 36 ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมลำดับที่ 11 ของ WHA Group ในไทย ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
 
การซื้อขายที่ดินกับ BYD ครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ของ WHA Group
 
โรงงานผลิตรถไฟฟ้า 100% และ Plug-in Hybrid ของ BYD คาดว่าจะเริ่มผลิตในปี 2024 ด้วยกำกลังการผลิต 150,000 คัน ต่อปี เพื่อขายในประเทศ และ ส่งออกไปยังประเทศต่างๆในอาเซียน และ ยุโรป ลงทุน 17,891 ล้านบาท โดยผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI : Board of Investment อนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่ กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV : รถยนต์ไฟฟ้า100%) และ รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก (PHEV : Plug-in Hybrid) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ BYD บริษัทแม่จากประเทศจีน มีการจดทะเบียนบริษัทในไทย อย่างเป็นทางการ เป็นที่เรียบร้อย โดยแบ่งออกเป็น 2 บริษัท เพื่อแยกส่วนงานบริหารสำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ และ ชิ้นส่วน เพื่อขายในประเทศ และ ส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน ดังนี้

  • บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด
    • ทุนจดทะเบียน 1,124,000,000 บาท (หนึ่งพันหนึ่งร้อยยี่สิบสี่ล้านบาท)
    • จดทะเบียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2565
    • วัตถุประสงค์เพื่อผลิตและขายยานยนต์ใหม่ ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และ รถขนาดเล็กที่คล้ายกัน และ รถยนต์ไฟฟ้า100%
  • บริษัท บีวายดี ออโต้ คอมโพเนนท์ส (ประเทศไทย) จำกัด
    • ทุนจดทะเบียน 332,000,000 บาท (สามร้อยสามสิบสองล้านบาท)
    • จดทะเบียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2565
    • วัตถุประสงค์เพื่อผลิตและขายยานยนต์ใหม่ ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และ รถขนาดเล็กที่คล้ายกัน และ รถยนต์ไฟฟ้า100% (คาดว่าแยกงานบริหารสำหรับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อส่งออก)

 

หลังจากที่ Rêver Automotive (เรเว่ ออโตโมทีฟ) เปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 8 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา หรือ 8 เดือน 8 โดยได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผู้จัดจำหน่าย และ ให้บริการหลังการขายรถยนต์แบรนด์ BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย แต่เพียงผู้เดียว (Thailand Authorized Distributor) เป็นที่เรียบร้อย

การลงทุนของ BYD จากประเทศจีน และ Rêver Automotive รวมกว่า 20,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก

  • โรงงานผลิตรถยนต์ ประมาณ 17,891 ล้านบาท
  • ส่วนการขาย และ บริการหลังการขาย ประมาณ 3,000 ล้านบาท

ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI : Board of Investment อนุมัติโครงการลงทุนขนาดใหญ่ กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV : รถยนต์ไฟฟ้า100%) และ รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสมเสียบปลั๊ก (PHEV : Plug-in Hybrid) ของบริษัท BYD ประเทศจีน มูลค่า 17,891 ล้านบาท เมื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมาเช่นกัน

Rêver Automotive (เรเว่ ออโตโมทีฟ) โดยคุณประธานวงศ์ พรประภา และ ประธานพร พรประภา ที่รับผิดชอบในส่วนการขาย และ บริการหลังการขาย ลงทุน 3,000 ล้านบาท เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า100% รุ่นแรก คือ BYD Atto 3 รถยนต์ไฟฟ้า100% ในกลุ่ม B-SUV/Crossover วันที่ 10 ตุลาคม นี้ ! พร้อมส่งมอบภายในปีนี้ จากนั้นจะตามด้วย BYD Dolphin รถยนต์ไฟฟ้า100% แบบ Hatchback ภายในปี 2022 นี้

โดยตั้งเป้าส่วนการขาย และ บริการหลังการขายดังนี้

  • เตรียมเปิด โชว์รูม-ศูนย์บริการ 32 แห่ง ทั่วประเทศ ในปี 2022 นี้
    • โดยมีทั้งในกรุงเทพฯ / ปริมณฑล และ ต่างจังหวัด ครอบคลุมทุกภาคในไทย เริ่มเดือน ตุลาคม นี้
  • จับมือ SHARGE เปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ให้ครบ 1,000 แห่ง 
  • ตั้งเป้า เปิดโชว์รูม-ศูนย์บริการ ให้ครบ 60 แห่ง ภายในปี 2023
  • ตั้งเป้า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 10,000 คัน ในปี 2023
  • ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในไทย ไฟฟ้า100% EV + PHEV Plug-in Hybrid ในปี 2024
  • ตั้งเป้า เป็น Top 5 ยอดขายรถยนต์ในไทย ภายใน 5 ปี หรือ ในปี 2027
    • นั่นหมายความว่า ตั้งเป้าจะทำยอดขายแซง Ford / Nissan / MG / GWM / Suzuki


นอกจากนี้เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา บริษัท สื่อสากล จำกัด โดย น้าขวัญ หรือ คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ผู้จัดงาน Motor Expo 2022 หรือ มหกรรมยานยนต์ 2565 มีการแถลงข่าว เปิดจองพื้นที่สำหรับงานปลายปี มีผังพื้นที่บูธปรากฎออกมาอย่างไม่เป็นทางการบางส่วน

เผยให้เห็นพื้นที่บูธของแต่ละค่ายรถยนต์ และ แบรนด์ใหม่ BYD Thailand ที่เตรียมเข้าร่วมงานปลายปี 2022 นี้โดย BYD Thailand จองพื้นที่บูธ Motor Expo 2022 ใหญ่ที่สุดในงาน เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า100% เต็มรูปแบบ !

  • Mercedes-Benz  1,250 ตารางเมตร
  • Porsche  860 ตารางเมตร
  • GWM  1,849 ตารางเมตร
  • BYD  1,849 ตารางเมตร
  • MG  1,548 ตารางเมตร
  • Honda  1,548 ตารางเมตร
  • Mazda  1,462 ตารางเมตร
  • BMW  1,540 ตารางเมตร
  • MINI  645 ตารางเมตร
  • KIA  300 ตารางเมตร
  • NETA  440 ตารางเมตร
  • Audi  880 ตารางเมตร
  • Subaru  400 ตารางเมตร
  • Peugeot  280 ตารางเมตร
  • Suzuki  1,250 ตารางเมตร
  • Ford  1,245 ตารางเมตร
  • Isuzu 1,250 ตารางเมตร
  • Toyota  1,720 ตารางเมตร
  • Lexus  817 ตารางเมตร
  • Nissan  1,151 ตารางเมตร
  • Mitsubishi  1,376 ตารางเมตร
  • Volvo  817 ตารางเมตร

MOTOR EXPO 2022 : ค่ายรถพร้อมหน้าจองพื้นที่งานใหญ่ปลายปี

“ IMC สื่อสากล ” เผยแนวคิด ” มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ” พร้อมเปิดจองพื้นที่งาน ค่ายรถยนต์ จักรยานยนต์ อุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง แห่เข้าร่วมอวดนวัตกรรมอนาคต 1-12 ธันวาคม นี้

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39” (MOTOR EXPO 2022) เปิดเผยว่า งานปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ได้เวลา…สัมผัสอนาคต – It’s TIME…Come Touch the Future” เพื่อแสดงความล้ำหน้าของยานยนต์ ทั้งด้านรูปลักษณ์ สมรรถนะ และเทคโนโลยี โดยมี บริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง จำนวนมากให้ความสนใจจองพื้นที่แสดง และคาดว่าจะเป็นงานใหญ่ปลายปีที่ได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างคึกคัก เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ดีขึ้นตามลำดับ ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการด้านสาธารณสุข ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า ส่งเสริมการใช้ และการผลิตภายในประเทศ

จากเหตุผลดังกล่าว รวมถึงความสำเร็จของงานที่ผ่านมา ทำให้มีผู้อุปถัมภ์งานอย่างเป็นทางการเพิ่มขึ้น ได้แก่ บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ และบริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ร่วมกับพันธมิตรที่อยู่คู่กับงานมายาวนานทั้ง บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด

พบกับงาน “ มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ” ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2565 ติดตามข้อมูล MOTOR EXPO ได้ทาง www.motorexpo.co.th

 

กรุงเทพ-ปริมณฑล

ภาคตะวันออก-ภาคตะวันตก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคเหนือ
ภาคใต้
- Advertisement -spot_img
Slide 2
Slide 2
previous arrow
next arrow

Stay Connected

330,000FansLike
6,955FollowersFollow
153,000FollowersFollow
319FollowersFollow
994,000SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Must Read

Related News