ฮอนด้า เปิดตัว ฮอนด้า City Hatchback e-HEV ครั้งแรกในโลก ในราคา 8.49 แสนบาท ซึ่งแพงกว่ารุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร 1 แสนบาท เดินหน้าสู้ศึกตลาดเก๋งเล็ก
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด เปิดตัว Honda City Hatchback e-HEV เป็นครั้งแรกในโลก เพื่อหวังเพิ่มยอดจำหน่ายรถยนต์ในกลุ่มรถขนาดเล็กให้เพิ่มมากขึ้น โดยนำเจ้า Honda City Hatchback มาใส่ชุดแต่ง RS และเพิ่มโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และโลโก้ e:HEV เข้ามา
ส่วน option ภายใน และ ระบบความปลอดภัยทั้งหมด ยกมาจาก Honda City e-HEV ทั้งหมด ไม่มีแตกต่าง รวมถึงเรื่องการรับประกันทั้งหลายก็เหมือนกันเป๊ะ ไม่ว่าจะเป็น รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง* อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ในราคา 849,000 บาท
พร้อมด้วยโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์* (Honda Ultimate Care) ด้วยการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)
เครื่องยนต์ของ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ใหม่ ใช้ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ระบบ Full Hybrid ที่เป็นการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า และ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC
i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว
พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม–ไอออน ให้กำลังแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน–เมตร ที่ 0-3,000 รอบต่อนาที อัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 27 กิโลเมตร/ลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 86 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20
เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ได้แก่
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
นอกจากนี้ ยังมีระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และ ระบบ Auto Brake Hold ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ส่วนกล้องยังคงมีแต่กล้องหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) เท่านั้น ไม่มีกล้องมองรอบคันเช่นเดิม และฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT)
นอกจากนี้ ทางฮอนด้า ยังอัดแคมเปญมาตั้งแต่เปิดตัวคือ ดอกเบี้ย 2.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี พิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2564 – 31 กรกฎาคม 2564 รับฟรีหูฟัง Skullcandy True Wireless Earbuds รุ่น Sesh Evo สี Deep Red มูลค่า 3,590 บาท
และหากใครยังคิดว่าเจ้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก อี:เอชอีวี สวยไม่พอ ทางฮอนด้า ก็ยังมี ชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ที่มาพร้อมแนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ ชุดป้องกันรอยบริเวณที่เปิดประตู ราคา 1,100 บาท ชุดตกแต่ง สปอยเลอร์หลัง ราคา 5,500 บาท คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วบันไดสแตนเลส LED ราคา 4,400 บาท แผงครอบกันรอยขอบห้องสัมภาระ ราคา 900 บาท กล้องวิดีโอติดรถยนต์ ราคา 3,850 บาท หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน ทั้งหมด 2 แพ็กเกจ ได้แก่
- Modulo Aero Sport Package ราคา 21,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น และ ชุดตกแต่งสปอยเลอร์หลัง
- Modulo Aero Package ราคา 16,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น