slide 1
slide 1
Image Slide 2
Image Slide 2
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
Homeข่าวสารข่าวรถยนต์ส่อง 6 โมเดลต้นแบบในบูธ YAMAHA ที่ Japan Mobility Show 2025

ส่อง 6 โมเดลต้นแบบในบูธ YAMAHA ที่ Japan Mobility Show 2025

YAMAHA เข้าร่วมจัดแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีในงาน Japan Mobility Show 2025 ที่ Tokyo Big Sight ภายใต้ธีม “Feel. Move.” สัมผัส ทุกการเคลื่อนไหว นำพาหัวใจให้ตอบสนอง ช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้น ประกายแห่งแรงบันดาลใจเหล่านี้นำพาความสุขมาสู่ชีวิต และส่องแสงสว่างให้กับวันที่จมอยู่กับกิจวัตรประจำวัน

ภายในงาน ยามาฮ่า ได้จัดแสดงนวัตกรรมทั้งหมด 16 โมเดล โดยมีการเปิดตัว 6 โมเดล ยานยนต์ต้นแบบครั้งแรกของโลก โดยมีรายละเอียดดังนี้

MOTOROiDΛ (โมโตรอยด์ แลมบ์ดา) รถจักรยานยนต์ที่เรียนรู้และพัฒนาตนเองแบบอัตโนมัติ

MOTOROiD เป็นโครงการที่ยามาฮ่าได้พัฒนาขึ้นมาภายใต้แนวคิดความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรโดยได้เริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2017 ที่ ยามาฮ่า ได้เผยโฉม MOTOROiD รุ่นต้นแบบ (Proof of Concept) ที่สามารถยืนทรงตัว และโต้ตอบกับผู้ขี่ได้อย่างอิสระ จากนั้นในปี 2023 MOTOROiD2 ได้พัฒนาไปอีกขั้น ด้วยความสามารถในการสื่อสาร และตอบสนองซึ่งกันและกันระหว่างผู้ขี่กับตัวรถ เสมือนกับเป็นคู่หูที่เข้าใจกัน และในปี 2025 ยามาฮ่าได้พัฒนา MOTOROiD ขึ้นไปอีกขั้นโดยมีชื่อว่า MOTOROiDΛ (โมโตรอยด์ แลมบ์ดา) มาพร้อมกับระบบที่สามารถเรียนรู้และพัฒนาด้วยตัวเองผ่านเทคโนโลยี Reinforcement Learning ที่รถจะทำการฝึกฝนในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง (Virtual Environment) และนำทักษะที่ได้มาใช้จริงด้วยเทคนิค Sim2Real เพื่อให้สามารถตัดสินใจ และตอบสนองได้ด้วยตนเอง

MOTOROiDΛ (โมโตรอยด์ แลมบ์ดา) จึงเป็นอีกก้าวสำคัญของวิวัฒนาการ ที่เปิดโอกาสให้ยานยนต์สามารถเรียนรู้ไปพร้อมกับผู้ขี่ใช้งานด้วยจุดเด่นของรุ่นนี้คือการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ และคล่องตัว ซึ่งได้จากการเรียนรู้ของระบบ AI รวมถึงโครงสร้างภายนอก (Exoskeleton) ที่เบา และมีความแข็งแรง รองรับการทดลอง และการพัฒนาซ้ำอย่างต่อเนื่องในกระบวนการเรียนรู้ด้วยการผสานโลกของการขับเคลื่อนเข้ากับการเรียนรู้ของเครื่องจักร” MOTOROiDΛ (โมโตรอยด์ แลมบ์ดา) มีเป้าหมายที่จะสร้างนิยามใหม่ให้กับโลกของยานยนต์สองล้อ และปูทางสู่อนาคตแห่งการขับเคลื่อนรูปแบบใหม่

MOTOROiD:Λ

TRICERA proto ยานยนต์ 3 ล้อต้นแบบ ที่ใช้ระบบเลี้ยวได้ทั้ง 3 ล้อ

TRICERA proto คือรถยานยนต์ไฟฟ้าสามล้อแบบเปิดประทุนที่สะท้อนแนวคิดความสนุกในการขับขี่ที่สามารถใช้งานได้จริง มาพร้อมระบบบังคับเลี้ยวสามล้อ (3WS – Three-Wheel Steering System) ที่มอบทั้งสมรรถนะการเข้าโค้งอันเร้าใจ และประสบการณ์การควบคุมแบบใหม่ที่ทำให้การเรียนรู้วิธีขับขี่กลายเป็นความสนุกในตัวมันเอง ด้วยแรงบันดาลใจจากความรู้สึกตอบสนองที่รวดเร็วและการเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับกับตัวรถในขณะเข้าโค้ง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถระบบบังคับเลี้ยวทุกล้อ (All-Wheel Steering), TRICERA proto ได้รับการปรับจูนระบบควบคุมการเลี้ยวให้ตอบโจทย์มุมมองด้าน “Human Research” เพื่อมอบความเพลิดเพลินสูงสุดและสร้างความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนกับเครื่องยนต์ในระดับใหม่ รถต้นแบบคันนี้ยังติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมเสียง αlive AD sound control ที่ปรับแต่งเสียงของมอเตอร์ไฟฟ้าให้มีมิติและเร้าอารมณ์ยิ่งขึ้น เพิ่มความตื่นเต้นและดึงให้ผู้ขับมีส่วนร่วมกับประสบการณ์ขับขี่อย่างเต็มที่ ในด้านการออกแบบดีไซน์ เน้นที่เส้นโค้งของเฟรมกลาง (Center Frame) ถูกออกแบบให้มีโครงสร้างสามล้อที่โดดเด่น ขณะที่การตัดกันระหว่างพื้นที่ของผู้ขับและพื้นที่ฟังก์ชันการทำงานจะทำให้ความรู้สึกแตกต่างกันช่วยสร้างภาพลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นและล้ำยุค

TRICERA proto
TRICERA proto

PROTO BEV มอเตอร์ไซค์ EV SuperSport

PROTO BEV รถต้นแบบที่สามารถใช้งานได้จริงคันนี้ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดความสนุกที่มีได้เฉพาะในรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ความจุสูงเพื่อยกระดับความสนุกในการขับขี่ให้ถึงขีดสุด และได้ประสบการณ์ขับขี่ที่สนุกสูงสุด ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบรถซูเปอร์สปอร์ต ยามาฮ่าจึงให้ความสำคัญในการดีไซน์ความเบา และขนาดที่กะทัดรัดส่งผลให้เกิดเป็นรถ EV Supersport ที่ขี่ง่าย คล่องตัว และควบคุมได้อย่างง่ายดายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของยามาฮ่า จากรถเครื่องยนต์สันดาปรุ่นต่างๆ เข้ากับความเรียบลื่น และความแรงเร่งอันทรงพลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ตอบสนองคันเร่งได้อย่างเป็นเส้นตรงและแม่นยำ นอกจากนี้ ระบบ Human–Machine Interface (HMI) ยังถูกออกแบบให้ช่วยให้ผู้ขับโฟกัสกับการขี่ในสนามได้อย่างเต็มที่ด้วยปุ่มควบคุมที่จัดวางให้อยู่ในตำแหน่งใช้งานสะดวกที่ปลายนิ้ว พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ Visualizer และระบบเสียงที่สื่อสารสถานะของรถทั้งในรูปแบบภาพและเสียง ซึ่งPROTO BEV จึงเป็นการผสานเทคโนโลยีไฟฟ้าเข้ากับจิตวิญญาณแห่งความเร้าใจของยามาฮ่า เพื่อสร้างนิยามใหม่ของความสนุกในการขับขี่

PROTO BEV

H2 Buddy Porter Concept เครื่องยนต์ไฮโดรเจนที่ร่วมกันพัฒนากับโตโยต้าเพื่อพลังงานที่สะอาด

เครื่องยนต์ไฮโดรเจนที่เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง Yamaha Motor และ Toyota Motor Corporation ได้ร่วมกันสร้างถังเก็บไฮโดรเจนแรงดันสูงแบบใหม่ที่มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับรถจักรยานยนต์ และสกู๊ตเตอร์ และได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)” โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาให้รถจักรยานยนต์เครื่องยนต์ไฮโดรเจนสามารถใช้งานบนถนนสาธารณะได้ในอนาคต โดยยามาฮ่ารับหน้าที่หลักในการพัฒนาเครื่องยนต์ไฮโดรเจน โครงสร้างตัวถัง และชิ้นส่วนสำคัญอื่นๆ ซึ่งทำให้เมื่อเติมเชื้อเพลิงเต็มถังแล้ว H2 Buddy Porter Concept จะสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตรต่อการเติมเชื้อเพลิงเต็มถังหนึ่งครั้ง ต้นแบบคันนี้ยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงข้อกำหนดทางเทคนิคสำหรับการใช้งานบนถนนจริงตามมาตรฐานที่มีอยู่ในปัจจุบัน และผ่านการรับรองมาตรฐานมลพิษ Euro 5 รวมถึงข้อกำหนดด้าน NOx อย่างครบถ้วน

YAMAHA
H2 Buddy Porter Concept

Y-00B จักรยานไฟฟ้าที่เรียบหรูและทันสมัย

Y-00BBase (วายศูนย์ศูนย์บี เบส) คือคอนเซ็ปต์ eBike รูปแบบใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อให้เจ้าของสามารถแสดงตัวตนได้อย่างอิสระดีไซน์เฟรมแบบ Dual Twin ที่บางเบา และมินิมอล ผสานแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนขนาดกะทัดรัดไว้อย่างกลมกลืน ให้ภาพลักษณ์ที่เรียบหรูและทันสมัย

ด้วยโครงสร้างที่ยืดหยุ่นต่อการปรับแต่งและขยายศักยภาพได้ในอนาคตทำให้ Y-00BBase เติบโตไปพร้อมกับเจ้าของ สามารถปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ และรสนิยมของแต่ละคนได้อย่างอิสระ กลายเป็นคู่หูที่เชื่อถือได้ในทุกเส้นทาง

นอกจากนี้ ยังมาพร้อม USB-PD Converter สำหรับชาร์จอุปกรณ์ได้ทุกที่ระหว่างการเดินทางและแบตเตอรี่ทรงเพรียวที่ช่วยให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้น

Y-00BBricolage (วายศูนย์ศูนย์บี บริโคลาจ) คือเวอร์ชันคัสตอมสุดพิเศษของ Y-00BBase ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 70 ปีของ Yamaha Motor โดยได้รับแรงบันดาลใจจากผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์รุ่นแรกของยามาฮ่าอย่าง YA-1 (ปี 1955) ผสานสุนทรียศาสตร์การออกแบบ ให้เข้ากับ เทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่างลงตัว สร้างสรรค์รูปลักษณ์ และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์

YAMAHA
Y-00B

e-Axle for Automotive Drive Unit ชุดขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าที่ใช้โครงสร้างที่ผสานรวมกับมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ และชุดเกียร์เข้าด้วยกัน โดย ชุดขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าดังกล่าวอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการส่งมอบให้กับผู้ผลิตรถยนต์ในอนาคต ด้วยโครงสร้างแบบพิเศษ 3-in-1 ที่ผสานมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ และระบบเกียร์เข้าไว้ในชุดเดียวกัน ทำให้สามารถให้กำลังขับที่สูง ในขณะที่ตัวของเครื่องยนต์มีน้ำหนักเบา และมีขนาดที่กะทัดรัด โดยระบบ e-Axle นี้ออกแบบให้รองรับการใช้งานได้กับรถยนต์หลายประเภท โดยสามารถทำงานกับแรงดันไฟตั้งแต่ 350V ถึง 800V และให้กำลังขับได้สูงสุดถึง 450 kW

เทคโนโลยีนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของยามาฮ่าในการพัฒนานวัตกรรมด้านการขับเคลื่อน เพื่อรองรับโลกยานยนต์ยุคไฟฟ้าในอนาคต

PROTO HEV (โปรโต เอชอีวี)

รถต้นแบบไฮบริด Series–Parallel Hybrid (SPHEV) ที่มอบประสบการณ์ความสนุกในการขับขี่ที่แตกต่าง ด้วยความสามารถในการสลับระหว่างโหมดการขับขี่เป็นสองรูปแบบอย่างอิสระได้แก่ “Serene” และ “Spirited” ด้วยการใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์สันดาปภายใน รวมเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ผสานโหมดการขับขี่ที่หลายกหลายได้อย่างลงตัว ให้ความเงียบ และนุ่มนวลในการขับขี่ในเมือง พร้อมมอบสมรรถนะที่ทรงพลังและมั่นใจในขณะขับขี่นอกเมือง ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยระบบ power and energy management technology ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่า 35%* เมื่อเทียบกับรถจักรยานยนต์ในระดับเดียวกัน อ้างอิงจากการทดสอบภายในองค์กร ภายใต้โหมด WMTC2-2

Proto HEV
Proto HEV

PROTO PHEV (โปรโต พีเอชอีวี)

รถต้นแบบเพื่อการวิจัย และพัฒนา (R&D) ที่ผสานรวมกับเสน่ห์ของเครื่องยนต์สันดาปภายในให้เข้ากับเทคโนโลยีไฟฟ้า (EV) เพื่อขยายขอบเขตแห่งความสนุกในการขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ให้ได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ ด้วยความสามารถในการสลับการทำงานระหว่าง เครื่องยนต์ (Engine Mode) และระบบไฟฟ้า (Electric Drive Mode) ผู้ขี่สามารถเลือกใช้งานได้ทั้งแบบ EV เต็มรูปแบบ หรือ Hybrid Mode ได้ตามสถานการณ์ PROTO PHEV ยังคงรักษาด้านสิ่งแวดล้อมที่ดีเยี่ยม ควบคู่ไปกับความสนุกในการขับขี่สไตล์สปอร์ตที่เป็นเอกลักษณ์ของยามาฮ่า เชื่อมโยงศักยภาพของเครื่องยนต์สันดาปเข้ากับอนาคตแห่งการขับเคลื่อนอย่างกลมกลืน

Proto PHEV
Proto PHEV

NACTUS VS TRE-X

NACTUS VS TRE-X คือต้นแบบรถวีลแชร์สามล้อที่ ร่วมมือกับ Nissin Medical Industries มาพร้อมกับชุดขับเคลื่อนแบบเสริมกำลังด้วยไฟฟ้ารุ่น JWX-2 Electric Power-Assist Unit ที่ออกแบบมาเพื่อมอบอิสระในการเคลื่อนไหวรูปแบบใหม่ ด้วยยางขนาดใหญ่ 26 นิ้วแบบ Mountain Bike Off-Road โดดเด่นด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยม ให้ความเสถียรอันเป็นเอกลักษณ์ของรถวีลแชร์สามล้อ ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายแม้บนเส้นทางขรุขระและเส้นทางที่ไม่ได้ลาดยางที่รถวีลแชรทั่วไปมักจะประสบปัญหา นอกจากโครงสร้างที่จัดวางคานกลางที่ผสมผสานความแข็งแกร่งเข้ากับความสง่างามแล้ว NACTUS VS TRE-X ยังมาพร้อมคุณสมบัติที่ใช้งานได้จริงมากมาย เช่น แร็คสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ใส่สัมภาระด้านหน้า กล่องใส่แบตเตอรี่กันน้ำ และที่วางเท้าที่กว้างขวาง

NACTUS VS TRE-X
NACTUS VS TRE-X

ONE-MAX Urban / Historical

รถเข็นไฟฟ้าทั้งสองรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความสมบูรณ์แบบในการเดินทาง และมีเอกลักษณ์ โดยติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า JWG-1 Wheelchair Electric Power Unit ที่ให้ทั้งความคล่องตัวและความมั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วยระบบยึดติด (Attachment System) ที่ยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปลักษณ์และฟังก์ชันของรถเข็นให้เหมาะกับจุดหมายปลายทางหรือสไตล์การใช้งานของตนเองได้อย่างอิสระ

ONE-MAX Urban เหมาะสำหรับการเดินทางระยะใกล้ ด้วยโครงสร้างขนาดกะทัดรัด และเบาะเบาะนั่งแบบตาข่ายที่ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีกล่องเก็บของขนาดเล็กและอุปกรณ์เสริมสำหรับติดตั้งสมาร์ทโฟน ส่วนรุ่น ONE-MAX Historical เป็นรุ่นทางเลือกที่โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหรา ให้ความรู้สึกเหมือนกระเป๋าเดินทางที่สรรสร้างขึ้นอย่างประณีตตัวถังช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างมั่นคงและราบรื่น การข้ามทางม้าลาย รวมถึงการเดินทางบนถนนฟุตบาทที่ปูด้วยหินหรือคอนกรีตตัวหนอน ในขณะที่เบาะนั่งหุ้มหนังและรายละเอียดอื่นๆ แสดงให้เห็นความประณีตในทุกมิติ ตัวถังถูกออกแบบให้มั่นคงบนพื้นผิวไม่เรียบ เช่น พื้นศาลเจ้า วัด หรือถนนหินโบราณ ขณะที่เบาะหนังเทียมและรายละเอียดงานออกแบบเผยให้เห็นความประณีตในทุกมิติ โดย ONE-MAX Urban และ ONE-MAX Historical  เป็นความร่วมมือระหว่างยามาฮ่าและ Matsunaga Manufactory Co., Ltd.

ONE-MAX Urban
ONE-MAX Urban / Historical

พร้อมกันนี้ภายในบูธ “Feel. Move.” ยังมีพื้นที่ที่ ยามาฮ่ามอเตอร์ ได้ร่วมมือกับทาง ยามาฮ่า คอปเปอร์เรชั่น ร่วมกันจัดแสดงด้วย Sound xR เป็นโซลูชั่นที่จะให้ความดื่มด่ำไปกับการสร้างสภาพแวดล้อมทางเสียงที่สมจริง และดึงดูดใจอย่างลึกซึ้ง ทั้งในพื้นที่จริงและพื้นที่เสมือนจริง เพื่อปรับแต่งเสียงก้อง (reverberation) ของพื้นที่ และใช้ AFC Image เพื่อควบคุมการกำหนดตำแหน่งภาพเสียง (sound image localization) ได้อย่างอิสระ ระบบทั้งสองนี้ทำงานร่วมกันเพื่อตอบสนองความต้องการของการผลิตเสียงที่ซับซ้อนในการใช้งานที่หลากหลาย เช่น ละครเวที, โอเปร่า และคอนเสิร์ต รวมถึงมอบประสบการณ์การฟังที่สมจริง และนำอุปกรณ์ทางดนตรีมาร่วมจัดแสดง

YAMAHA

- Advertisement -spot_img
Mitsubishi Mega Deal
Mitsubishi Mega Deal
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
previous arrow
next arrow
- Advertisement -spot_img

Stay Connected

500,000FansLike
14,000FollowersFollow
203,000FollowersFollow
319FollowersFollow
114,000SubscribersSubscribe

Must Read

Related News