บริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด รับมอบ UD Trucks Euro 5 จำนวน 21 คัน เพื่อรองรับเป้าหมายการเติบโต 8 – 9% ในปีนี้ โดยมีแผนการขายงานด้านบริการโลจิสติกส์ครบวงจรไปยังกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายได้แก่กลุ่มลูกค้าขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ กลุ่มขนส่งวัตถุอันตรายและกลุ่มสินค้าประเภทเทกอง
นายโยธิน ตระหง่านศรี ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด เปิดเผยว่า ธุรกิจของบริษัทมีอัตราเติบต่อเนื่องทุกปี โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าจะเติบโตประมาณ 8 – 9% แม้จะเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลกและกำแพงภาษีสหรัฐฯ แต่ด้วยการกระจายการให้บริการไปยังหลายกลุ่มลูกค้า ได้แก่ การขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ (45%) วัตถุอันตราย (25%) และสินค้าประเภทเทกอง (30%) ทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาความแข็งแกร่งทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัทยังได้วางทิศทางเติบโตในอนาคตสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจร อาทิ บริการลานคอนเทนเนอร์ Freight Forwarding และชิปปิ้ง พร้อมทั้งมุ่งเน้นยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพการขนส่งอย่างยั่งยืน
ล่าสุดทางบริษัทได้ตัดสินใจสั่งซื้อ UD Trucks Euro 5 จำนวน 21 คัน เพื่อรองรับการขยายงาน โดยจากศึกษารถบรรทุกหลายแบรนด์ พบว่ารถยูโร 5 ที่ใช้ระบบเติมสารแอดบลู (AdBlue) มีประสิทธิภาพสูงกว่า ทั้งด้านการบำบัดไอเสีย การดูแลเครื่องยนต์ และประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว แม้จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นในการเติมสารแอดบลู แต่กลับลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุง และช่วยให้สิ้นเปลืองน้ำมันน้อยลงถึง 10% เมื่อเทียบกับรถยูโร 3
“แม้ที่ผ่านมาเราคุ้นเคยกับรถบรรทุกยุโรปอย่างวอลโว่ ทรัคส์ แต่การที่ยูดี ทรัคส์ผสมผสานเทคโนโลยีจากแบรนด์ยุโรปเข้ามา ทำให้มั่นใจและเลือกใช้ในฟลีทรถบรรทุกของเรา ปัจจุบันในฟลีทรถบรรทุกกว่า 270 คัน มี UD Trucks ถึงกว่า 100 คัน” นายโยธินกล่าว
อย่างไรก็ดี ปัญหาที่ธุรกิจขนส่งยังคงเผชิญคือการขาดแคลนพนักงานขับรถ แม้บริษัทจะเพิ่มรายได้และสวัสดิการเพื่อดึงดูดแรงงาน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ โดยมีแนวคิดที่จะจัดตั้งหลักสูตรอบรมภายในเพื่อสร้างบุคลากรขึ้นมาเอง เพราะมองว่าอาชีพพนักงานขับรถเป็นอาชีพที่มั่นคง มีเกียรติ และต้องอาศัยความรับผิดชอบสูง เนื่องจากอุบัติเหตุบนท้องถนนคือสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
การตัดสินใจลงทุนใน UD Trucks Euro 5 ครั้งนี้ ไม่เพียงช่วยยกระดับศักยภาพการขนส่งของ TSSK Logistics แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญกับการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
