slide 1
slide 1
Image Slide 2
Image Slide 2
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
Homeข่าวสารตลาดรถยนต์ไทยปี'68 อาจเหลือ 5.3 แสนคัน จากภาวะเศรษฐกิจผันผวน

ตลาดรถยนต์ไทยปี’68 อาจเหลือ 5.3 แสนคัน จากภาวะเศรษฐกิจผันผวน

รายงานข่าวจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ปี 2568 คาดการณ์ยอดขายของ ตลาดรถยนต์ ในประเทศอาจเหลือ 5.3 แสนคัน ลดลงต่อจากปีที่แล้วที่ 7.5% จากปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการปล่อยสินเชื่อที่มีอยู่เดิมรวมกับปัญหาใหม่ อาทิ ปัญหาหนี้เสียที่สูงและกำลังซื้อที่อ่อนแอต่อเนื่องจากปีที่แล้ว, ปัญหาแผ่นดินไหวที่กระทบต่อรายได้ในภาคการท่องเที่ยว, การปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าไทยของสหรัฐฯสูงถึง 36% กระทบต่อภาคการส่งออก ทำให้ปัญหาความเชื่อมั่นในการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ใหม่ยังดำเนินต่อ แม้จะมีมาตรการรัฐ เช่นกระบะพี่มีคลังค้ำออกมา ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายรถกระบะได้แต่ไม่เต็มที่ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานหลักยังอ่อนแอ

ทั้งนี้ ได้คาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ xEV จะขยายตัวดีโดยขยับขึ้นครองส่วนแบ่ง 48% ของยอดขายรถยนต์รวมปี 2568 ส่งผลให้ค่ายรถยนต์จีนซึ่งทำตลาดรถยนต์ xEV เป็นหลักมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 19% แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์จะหดตัว แต่กลุ่มรถยนต์ xEV ที่ใช้พลังงานทางเลือกยังคงเติบโตตามทิศทางความต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของผู้บริโภค นำโดย รถยนต์ไฮบริด (HEV), รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ตามลำดับซึ่งปัจจุบันยังทำตลาดในกลุ่มรถยนต์นั่งเป็นหลัก

ทิศทางดังกล่าวทำให้ปี 2568 รถยนต์นั่งกลุ่ม xEV คาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 55% ของยอดขายรถยนต์นั่งรวม ขณะที่รถเพื่อการพาณิชย์กลุ่ม xEV คาดว่าจะยังมีส่วนแบ่งตลาดน้อยมากเพียง 1% ของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์รวม

ขณะที่ หากพิจารณาตามสัญชาติของค่ายรถยนต์ จะเห็นว่าค่ายรถญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำตลาดของไทยในปัจจุบัน เลือกทำตลาดรถยนต์ xEV ในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดเป็นหลัก ส่วนค่ายรถยนต์จีน เน้นขายรถยนต์ BEV และเริ่มสร้างตลาดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดมากขึ้นในปีนี้ขณะที่ค่ายรถยนต์ตะวันตกเน้นทำตลาดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด

อย่างไรก็ตาม จากงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ มอเตอร์โชว์ 2025 (Motor Show 2025) พบว่า ค่ายรถยนต์จีนกำลังเร่งขึ้นมามีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ไทยอย่างรวดเร็ว โดยยอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งล่าสุด พบจีนขยับขึ้นมามีส่วนแบ่งเกินครึ่งเป็นครั้งแรก ซึ่งเมื่อผนวกกับการเติบโตในอัตราเร่งของตลาดรถยนต์ xEV ในไทยดังกล่าวถึงก่อนหน้านี้ ทำให้ค่ายรถยนต์จีนมีโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ไทยขึ้นสู่ระดับ 19% เนื่องจากจีนเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ BEV ในไทยและอนาคตอันใกล้คาดว่าจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดด้วย

สำหรับระยะถัดไป ประเด็นที่ควรต้องติดตามซึ่งอาจจะมีผลต่อทิศทางตลาดรถยนต์หากเกิดขึ้น เช่น การเจรจาของภาครัฐระหว่างไทยกับสหรัฐฯเพื่อพิจารณาลดภาษีนำเข้า ซึ่งจะช่วยอุตสาหกรรมผลิตเพื่อส่งออก มาตรการกระตุ้นการลงทุน การท่องเที่ยว และการใช้จ่ายในประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจเพิ่ม รวมถึงมาตรการกระตุ้นตลาดรถยนต์เพิ่มเติมอย่าง โครงการรถเก่าแลกรถใหม่เป็นต้น

- Advertisement -spot_img
Mitsubishi Mega Deal
Mitsubishi Mega Deal
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แบล็ก เอดิชัน
previous arrow
next arrow
- Advertisement -spot_img

Stay Connected

400,000FansLike
6,955FollowersFollow
153,000FollowersFollow
319FollowersFollow
107,000SubscribersSubscribe

Must Read

Related News