BMW M4 CS (G82 LCI)
ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU)
- M4 CS 14,999,000 บาท
มาพร้อม BSI Standard
- รับประกันคุณภาพตัวรถ นาน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- ฟรี ค่าบำรุงรักษา นาน 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance นาน 5 ปี
Dimension มิติตัวถัง
- ยาว 4,801 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,918 มิลลิเมตร
- สูง 1,399 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ wheelbase 2,857 มิลลิเมตร
- ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ขนาด 440 ลิตร
Engine เครื่องยนต์
M4 CS
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร 2,993 ซีซี. M TwinPower Turbo กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 90.0 x 84.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.3 : 1 พละกำลังสูงสุด 551 แรงม้า ที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ 2,750 – 5,950 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ M Steptronic with Drivelogic ขับเคลื่อนล้อหลัง
ตัวเลขเคลมจากโรงงาน
- อัตราเร่ง 0-100 km/h : 3.4 วินาที
- อัตราเร่ง 0-200 km/h : 11.1 วินาที
- Top Speed ความเร็วสูงสุด 302 km/h
อัตราทดเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ M Steptronic with Drivelogic
- เกียร์ 1 5.000
- เกียร์ 2 3.200
- เกียร์ 3 2.143
- เกียร์ 4 1.720
- เกียร์ 5 1.313
- เกียร์ 6 1.000
- เกียร์ 7 0.823
- เกียร์ 8 0.640
- เกียร์ถอยหลัง 3.478
- อัตราทดเฟืองท้าย 3.154
สีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 4 สี
- สีดำ Black Sapphire
- สีเทา Brooklyn Grey
สีพิเศษ
- สีฟ้า BMW Individual Riviera Blue Solid
- สีเขียว BMW Individual Frozen Isle of Man Green Metallic
ภายในห้องโดยสาร Full Leather Merino สีดำ Anthracite
M4 CS ซึ่งถือเป็นรุ่นพิเศษที่ยกระดับสมรรถนะของบีเอ็มดับเบิลยู M4 คูเป้ ให้ส่งมอบความแรงในระดับรถแข่ง ที่แฝงอยู่ในรถซาลูน 4 ที่นั่ง โดย M4 CS ใหม่ เป็นรุ่นอยู่ระหว่างรุ่น M4 Competition Coupe และ M4 CSL ทั้งยังผ่านการพิสูจน์ความเร็วมาแล้วจากสนาม Nürburgring Nordschleife อันเลื่องชื่อ ด้วยเวลารอบเพียง 7 นาที 21.989 วินาที
เพียงแรกเห็น ทุกคนต้องสัมผัสได้ถึงความสปอร์ตในสไตล์รถแข่งของบีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ ที่ดูโฉบเฉี่ยวสมกับเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงอันทรงพลังที่ซ่อนอยู่ภายใน เครื่องยนต์กำลังสูงขนาด 3.0 ลิตรพร้อมเทคโนโลยี
M TwinPower Turbo ในเวอร์ชั่นที่พัฒนาขึ้นสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู M3 และ M4 โดยเฉพาะ และยังเป็นเครื่องยนต์ที่เป็นรากฐานของการพัฒนารถแข่งจากบีเอ็มดับเบิลยู M4 GT3 จึงได้รับเทคโนโลยีสุดล้ำจากบีเอ็มดับเบิลยู M มาอย่างเต็มตัว พร้อมเผชิญกับโจทย์ที่ท้าทายระดับเดียวกับการลงสนามแข่ง ด้วยพละกำลัง 405 กิโลวัตต์ / 551 แรงม้า ซึ่งสูงกว่าในรุ่น M4 Competition Coupe อยู่ 15 กิโลวัตต์ / 20 แรงม้า ด้วยการปรับจูนเฉพาะระบบ M TwinPower Turbo เท่านั้น ส่วนแรงบิดสูงสุดที่ 650 นิวตันเมตร ส่งกำลังได้ต่อเนื่องยิ่งขึ้นที่รอบเครื่องตั้งแต่ 2,750 ไปจนถึง 5,950 รอบต่อนาที
การตอบสนองที่ฉับไวและรอบเครื่องยนต์ที่สูงช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS มีอัตราเร่งในระดับแถวหน้า สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 3.4 วินาที และใช้เวลาเพียง 11.1 วินาทีเพื่อเร่งความเร็วจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 302 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แรงบิดมหาศาลจากเครื่องยนต์ตัวนี้ เดินทางสู่ล้อทั้งสี่ผ่านระบบเกียร์ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมเทคโนโลยี Drivelogic ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งการทำงานของเกียร์ให้เข้ากับการขับในวันสบาย ๆ รวมถึงการขับขี่แบบสปอร์ต หรือการออกไปโลดแล่นในสนามแข่ง ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อให้ตัวรถเกาะถนน เคลื่อนตัวได้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำในทุกสถานการณ์ ส่วนการส่งกำลังแบบเน้นไปที่ล้อหลังก็เติมความสนุกในการขับขี่ในสไตล์ M ได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยเฉพาะขณะเร่งความเร็วหรือเข้าโค้ง และแน่นอนว่าเมื่อปรับไปยังโหมด 2WD ผู้ขับขี่สามารถเลือกปิดระบบ DSC โดยสมบูรณ์ และส่งกำลังเครื่องยนต์ทั้งหมดไปยังล้อหลังเพื่อความสนุกแบบเต็มพิกัด
แชสซีของบีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ ออกแบบและปรับแต่งมาในทุกรายละเอียดเพื่อให้เข้ากับสมรรถนะของเครื่องยนต์ แนวคิดของการผสมผสานรถยนต์นั่งเข้ากับรถแข่ง และการกระจายน้ำหนักของตัวรถ เช่น คานค้ำยันช่วงล่างด้านหน้าที่พัฒนามาให้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและทนทานต่อแรงเหวี่ยงของตัวถัง จึงส่งผลให้ตัวรถเข้าโค้งได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ขณะที่ระบบกันสะเทือนในช่วงล่าง Adaptive M ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับแต่งมาสำหรับ M4 CS โดยเฉพาะ เช่นเดียวกับพวงมาลัยไฟฟ้า M Servotronic ที่มีอัตราทดแปรผัน และระบบเบรก ส่วนโหมด M Dynamic มอบทางเลือกให้ผู้ขับขี่ปลดล็อกสมรรถนะสูงสุดของตัวรถ ด้วยการลดระดับการทำงานของระบบ DSC ลง
บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ มาพร้อมกับเบรก M Carbon Ceramic เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เข้าชุดกับล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาในดีไซน์ Star-spoke และยางสมรรถนะสูงสำหรับสนามแข่ง ส่วนตัวถังมีการเลือกใช้วัสดุและแนวคิดด้านวิศวกรรมที่มุ่งเน้นการลดน้ำหนักของตัวรถลง รวมถึงการใช้วัสดุ CFRP (คาร์บอนไฟเบอร์) ที่หลังคา กระโปรงหน้า สปลิตเตอร์และช่องลมด้านหน้า ฝาครอบกระจกมองข้าง ดิฟฟิวเซอร์และสปอยเลอร์ท้ายรถ ต่างช่วยให้ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของบีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ ลดระดับลงใกล้พื้นถนนมากยิ่งขึ้นเพื่อความคล่องตัว ส่วนในห้องโดยสารก็ยังมีการใช้วัสดุ CFRP ในหลายจุด ทั้งบริเวณคอนโซลกลาง แป้นเปลี่ยนเกียร์ องค์ประกอบตกแต่งพื้นผิวภายในต่าง ๆ หรือแม้แต่โครงสร้างของเบาะนั่งแบบ M Carbon โดยทั้งหมดนี้ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ มีน้ำหนักน้อยกว่าเพื่อนร่วมรุ่นอย่างบีเอ็มดับเบิลยู M4 Competition Coupe M xDrive ราว 15 กิโลกรัม
บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ ไม่ได้เป็นดาวเด่นในสนามแข่งเท่านั้น แต่ยังพร้อมดึงดูดสายตาทุกคู่บนท้องถนน เริ่มตั้งแต่สีตัวถังใหม่จาก BMW Individual ได้แก่ น้ำเงิน Riviera Blue และเขียว Frozen Isle of Man Green Metallic ที่มีให้เลือกเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น หรือจะเลือกลุคที่นวลตากว่าด้วยสีเทา M Brooklyn Grey Metallic และดำ Sapphire Black Metallic พร้อมแต่งแบบตัดสีด้วยผิวหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ในบางจุด ส่วนกระจังหน้าก็มาในรูปแบบน้ำหนักเบาและไร้กรอบ แต่งด้วยเส้นกรอบสีแดงและตราชื่อรุ่น “M4 CS” ในสไตล์ที่คล้ายคลึงกับรถแข่ง ขนาบข้างด้วยไฟหน้าที่มีไฟส่องสว่างเวลากลางวันในโทนสีเหลืองเหมือนกับรถแข่ง GT ส่วนไฟท้าย ยกเทคโนโลยี BMW Laserlight ที่เคยเปิดตัวไปในรุ่น M4 CSL มาสร้างเอกลักษณ์ด้วยเอฟเฟกต์ไฟท้ายแบบสามมิติ
ในห้องโดยสาร บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ มุ่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ขับขี่ในทุกภารกิจ ด้วยพวงมาลัย M Alcantara แบบสามก้านตัดขอบล่าง ที่ไม่เพียงจับถนัดมือแต่ยังแต่งแต้มด้วยองค์ประกอบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสนามแข่ง เช่น เครื่องหมายสีแดงแทนจุดกึ่งกลางของพวงมาลัย และแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่ทำจาก CFRP ส่วนเบาะนั่งแบบ M Carbon bucket seat หุ้มด้วยหนัง Merino สีดำตัดกับตะเข็บสีแดง จึงเข้ากับโทนสีดำ-แดงในส่วนอื่นๆ ของห้องโดยสารได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ “CS” สีแดงที่คอนโซลกลาง ป้ายอักษร “M4 CS” ที่ขอบประตูรถ เข็มขัดนิรภัยแบบ M ที่แต่งแถบสีประจำตัวของบีเอ็มดับเบิลยู M เพดานสีดำ Anthracite พร้อมแต่งพื้นผิวภายในห้องโดยสารด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ผสมผสานเป็นบรรยากาศของความสปอร์ตอย่างเต็มตัว
หน้าจอควบคุมที่ใช้ระบบ BMW iDrive รุ่นล่าสุด พร้อมฟังก์ชันการสั่งงานจากระบบปฏิบัติการ BMW Operation System 8.5 ทำให้การใช้งานฟังก์ชันและบริการดิจิทัลต่าง ๆ ทั้งสะดวกรวดเร็ว สำหรับผู้ขับขี่ หน้าจอโค้ง BMW Curved Display จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะของรถในสไตล์เดียวกับรถยนต์ตระกูล M รุ่นอื่น ๆ และยังจัดวางหน้าจอให้หันมาทางผู้ขับขี่เล็กน้อย จึงสามารถอ่านจอได้โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนข้างหน้า เช่นเดียวกับหน้าจอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้วบริเวณหลังพวงมาลัย และจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว โดยมีไฟ M Shift Lights ช่วยให้สัญญาณเปลี่ยนเกียร์ติดตั้งอยู่ด้านบนจอ Information Display ที่อยู่เหนือพื้นที่สำหรับการควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ของตัวรถ ระดับการยึดเกาะถนน และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ที่ปรากฏบนหน้าจอด้านล่าง
ปุ่มควบคุมที่บริเวณคอนโซลหน้าก็ได้รับออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การขับขี่สไตล์ M เช่นกัน โดยมีปุ่มสำหรับเข้าตั้งค่าเครื่องยนต์ แชสซี พวงมาลัย เบรก และระบบ M xDrive อย่างครบครัน ทั้งยังสามารถเซฟการตั้งค่าเป็นพรีเซ็ตได้ 2 ชุด เพื่อเรียกใช้ทันทีจากปุ่ม M สองปุ่มบนพวงมาลัย ส่วนระบบ M Drive Professional ก็เพิ่มฟังก์ชันเฉพาะทางสำหรับการลงสนามแข่ง เช่น M Drift Analyser ที่บันทึก วิเคราะห์ และให้คะแนนการดริฟต์เข้าโค้งในแต่ละครั้ง M Laptimer ฟังก์ชันจับเวลารอบสนามเพื่อแชร์กับเพื่อน ๆ นักขับ และ M Traction Control ที่เลือกระดับการทำงานได้ถึง 10 ระดับ
นอกจากนี้ ปุ่ม M Mode ที่คอนโซลกลาง ยังเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่มาพร้อมกับระบบ M Drive Professional โดยผู้ขับสามารถใช้ปุ่มนี้ตั้งค่าระบบช่วยเหลือการขับขี่และเลือกข้อมูลที่จะแสดงผลที่หน้าจอ Information Display และHead-Up Display ได้ ส่วนโหมดการขับขี่ บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ ไม่ได้รองรับเพียงโหมดมาตรฐานอย่าง ROAD และ SPORT เท่านั้น แต่ยังมีโหมด TRACK ติดตั้งมาให้สำหรับการขับขี่ในสนามแข่งอีกด้วย
Specification รายละเอียดของ BMW M4 CS เวอร์ชั่นไทย