

Xiaomi เปิดตัวรถยนต์รุ่นที่สองของค่าย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2025 ในชื่อ Xiaomi YU7 นับเป็น SUV รุ่นแรกของค่าย โดยจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Tesla Model Y โดย CEO ของค่ายอย่าง Lei Jun ได้บรรยายสรรพคุณว่า SU7 เหนือชั้นกว่า Model Y ในทุกมุม ในส่วนของรายละเอียดมิติตัวถัง มีดังนี้
- ยาว : 4,999 มิลลิเมตร
- กว้าง : 1,996 มิลลิเมตร
- สูง : 1,608 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 3,000 มิลลิเมตร


แม้จะมาในตัวถัง SUV แต่ Xiaomi YU7 มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.245 Cd ด้วยชิ้นส่วนตัวถังที่คำนึงถึงประสิทธิภาพการรีดอากาศ ทั้งกระจังหน้าปิดได้แบบ Active Grille พร้อมมือเปิดประตูแบบจมเสมอตัวถัง ล้อมีขนาด 19 – 21 นิ้วให้เลือก ส่วนสีตัวถังมี 9 แบบรวมถึงสีที่เป็นเอกลักษณ์ อย่างสีเขียว Gemstone Green สีภายในมีให้เลือก 4 สีรวมถึง สีเทา Turquoise Grey, สีส้ม Coral Orange, สีน้ำเงิน Twilight Blue และ สีม่วง Iris Purple
Xiaomi YU7 มาพร้อมกับห้องโดยสารที่ตกแต่งด้วยหนัง Nappa เบาะคู่หน้าเป็นแบบ Zero Gravity ปรับเอนได้ 123 องศา และมีระบบนวด ส่วนเบาะหลังปรับไฟฟ้าได้ 135 องศา ส่วนระบบแสดงผสมี HyperVision ที่ผสาน 3 หน้าจอความละเอียดสูง Mini LED เข้าด้วยกันเพื่อให้ได้การแสดงผลแบบ Panorama ส่วนระบบสั่งการด้วยเสียง ทำงานร่วมกับผู้ช่วย AI ของ Xiaomi ผู้โดยสารตอนหลังยังมีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.68 นิ้ว ไว้ควบคุมระบบด้วย



ขุมพลังของ Xiaomi YU7 เป็นระบบไฟฟ้า EV มีให้เลือกด้วยกัน 3 ระดับความแรง ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- Standard มอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 320 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 528 นิวตันเมตร เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.88 วินาที แบตเตอรี่เป็นแบบ LFP ขนาด 96.3 kWh ขับได้ไกลสุด 835 กิโลเมตร (CLTC)
- Pro มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังรวมสูงสุด 496 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 690 นิวตันเมตร เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.27 วินาที แบตเตอรี่เป็นแบบ LFP ขนาด 96.3 kWh ขับได้ไกลสุด 770 กิโลเมตร (CLTC)
- Max มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังรวมสูงสุด 691 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 866 นิวตันเมตร เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.23 วินาที แบตเตอรี่เป็นแบบ NMC ขนาด 101.7 kWh ขับได้ไกลสุด 760 กิโลเมตร (CLTC)


Xiaomi YU7 สร้างขึ้นบนงานวิศวกรรม Modena EV Platform รองรับการชาร์จแบบ 5.2C ใช้เวลาในการชาร์จ 15 นาที เพื่อขับขี่ไปได้อีก 620 กิโลเมตร ในส่วนของความปลอดภัย มีตัวถังทำจากโครงสร้างโลหะผสมอะลูมิเนียม พร้อมครอบแบตเตอรี่แบบกันกระสุน ในส่วนของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ LiDAR, ชิพ Thor (700 TOPS) จาก NVIDIA และ ชิพของ Xiaomi
Xiaomi YU7 เปิดรับจองแล้วที่ประเทศจีน โดยผู้สนใจสามารถวางเงินจองมูลค่า 5,000 หยวน (ราว 22,000 บาท) และสามารถขอคืนได้ใน 7 วัน ส่วนการผลิตคาดว่าจะเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม โดยมีกำลังการผลิตปีละ 150,000 คัน ส่วนราคาจำหน่ายที่นั่นโดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย แบ่งตามรุ่นได้ ดังนี้
- Standard ราคาเริ่มต้น 253,500 หยวน (ราว 1,148,000 บาท)
- Pro ราคาเริ่มต้น 279,900 หยวน (ราว 1,268,000 บาท)
- Max ราคาเริ่มต้น 329,900 หยวน (ราว 1,494,000 บาท)


ที่มา: carnewschina, cnevpost









