
Toyota Aqua มีรุ่นปรับปรุงแบบ Minorchange ตามมาแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น โดยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและเห็นชัดที่สุดคือ ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ยกชุดแบบ Bi-Beam LED รูปทรง Hammerhead พร้อมแถบ LED ยาวตลอดแนว ตามที่ปรากฎใน Toyota รุ่นใหม่ในยุคหลัง เสริมมิติด้วยสปอยเลอร์หลังคาและคาดฝาท้ายด้วยสีดำ ส่วนล้อเป็นลายใบพัดปัดหน้าเงา ตัดขอบด้านในสีดำขนาด 16 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 195/55 ส่วนมิติตัวถัง มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ยาว: 4,080 มิลลิเมตร
- กว้าง: 1,695 มิลลิเมตร
- สูง: 1,485 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ: 2,600 มิลลิเมตร

ห้องโดยสารของ Toyota Aqua มีมาตรวัด TFT พร้อมจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว เบรกมือเป็นแบบไฟฟ้าและมีช่องรับสัญญาณ HDMI ส่วนลูกเล่นที่เพิ่มเข้ามาใหม่คือ Smooth Stop Control ระบบช่วยให้เบรกอย่างนุ่มนวล ลดอาการหน้าทิ่ม แบบเดียวกับที่อยู่ใน Century รวมถึง Alphard / Vellfire นับเป็นครั้งแรกที่ติดตั้งมาในรถยนต์พิกัด Compact ของค่าย ทั้งยังมีระบบ Proactive Driving Assist เพิ่มเข้ามาใน Toyota Safety Sense ซึ่งช่วยผู้ขับขี่ควบคุมทั้งพวงมาลัย และลดความเร็วลง
ขุมพลังของ Toyota Aqua เป็นระบบ Hybrid ประกอบด้วย เครื่องยนต์เบนซิน รหัส M15A-FXE แบบ 3 สูบ ขนาด 1,490 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 97.6 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 120 นิวตันเมตร ที่ 3,800 – 4,800 รอบ/นาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า รหัส 1NM กำลังสูงสุด 80 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าหลัง รหัส 1MM กำลังสูงสุด 4.7 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 52 นิวตันเมตร
Toyota Aqua เปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2025 มีให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย G, X และ Z ทั้งยังมีรุ่นย่อยพิเศษ U อีกรุ่น แต่สงวนสิทธิ์ไว้ให้ลูกค้า Kinto เท่านั้น สำหรับราคาจำหน่ายขายขาดในประเทศญี่ปุ่น โดยที่ไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยอยู่ระหว่าง 2,486,000 – 3,022,800 เยน (ประมาณ 545,000 – 663,000 บาท)

ที่มา: Toyota, car.watch.impress




