Tesla Model Y L เปิดตัวที่ประเทศจีนแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2025 โดยชูจุดขายเบาะสามแถวแบบแยกทุกที่นั่ง ทั้งยังมีการปรับงานวิศวกรรมใหม่หลายส่วน พร้อมปรับอุปกรณ์มาตรฐาน ในส่วนของสีตัวถัง มีให้เลือก 6 สี ประกอบด้วย สีเทา Starry Gray, สีขาว Pearl White, สีน้ำเงิน Glacier Blue, สีดำ Diamond Black, สีแดง Flame Red และสีพิเศษเฉพาะรุ่นอย่างสีทอง Starlight Gold. สำหรับรายละเอียดมิติตัวถัง พร้อมส่วนต่างจาก Model Y รุ่นเบาะสองแถว มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ยาว: 4,976 มิลลิเมตร (+ 186 มิลลิเมตร)
- กว้าง: 1,920 มิลลิเมตร
- สูง: 1,668 มิลลิเมตร (+ 44 มิลลิเมตร)
- ระยะฐานล้อ: 3,040 มิลลิเมตร (+ 150 มิลลิเมตร)
- Ground Clearance: 169 มิลลิเมตร (+ 2 มิลลิเมตร)
Tesla Model Y L ปรับแต่งดีไซน์ช่วงครึ่งหลังใหม่ นอกจากมีกระจกหน้าต่างยาวขึ้นแล้ว ยังมีแนวหลังคาลาดลงขึ้น เสริมด้วยสปอยเลอร์ท้ายทรงใหม่ ทั้งหมดช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศจาก 0.22 เป็น 0.216 Cd ล้อเปลี่ยนลายใหม่ขนาด 19 นิ้ว ห้องโดยสารนอกจากจะมีเบาะ 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 6 ที่นั่งแล้ว ยังเพิ่มอุปกรณ์ใหม่หลายรายการ เริ่มต้นจากหน้าจอสัมผัสกลางจากเดิมขนาด 15.4 ขยายเป็น 16 นิ้ว พร้อมเพิ่มความละเอียดอีก 30% แท่นชาร์จไร้สายคู่ด้านหน้าเปลี่ยนใหม่ เพิ่มกำลังเป็น 50 และ 30 วัตต์
เครื่องเสียงของ Tesla Model Y L ปรับใหม่เช่นกัน โดยเพิ่มจาก 16 เป็น 19 ลำโพงพร้อม Subwoofer ทั้งยังมีการระบุว่าเก็บเสียงในห้องโดยสารดีกว่าเดิม ด้วยการปรับกระจกพร้อมอัพเกรดช่วงล่าง และใช้ยางที่เงียบขึ้น หน้าจอสัมผัสด้านหลังยังคงอยู่โดยมีขนาด 8 นิ้ว พร้อมเพิ่มช่องชาร์จไฟในเบาะทุกแถว ส่วนระบบปรับอากาศปรับปรุงใหม่ มีประสิทธิภาพทำความเย็นดีกว่าเดิม 15% แต่กินไฟลดลง 20% ตัวเบาะยังปรับอุ่นได้ทั้ง 3 แถว ส่วนเบาะแถวแรกและแถวสอง เพิ่มระบบเป่าลมเย็นและปรับด้วยไฟฟ้า ทั้งยังเลือกสีได้ระหว่างเทาอ่อนและดำ
Tesla Model Y L ปรับเบาะคู่หน้าใหม่เป็นทรงสปอร์ต พร้อมเพิ่มพนักพิงศีรษะและรองน่องแบบปรับระดับได้ ที่นั่งแถวสุดท้าย รองรับผู้โดยสารที่มีความสูง 187 เซนติเมตรได้ ส่วนพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลัง เมื่อกางเบาะทุกที่นั่ง จะบรรทุกกระเป๋าเดินทางขนาด 24 นิ้วได้ 2 ใบ และ ขนาด 20 นิ้วได้อีก 1 ใบ แต่เมื่อพับเบาะลงจะมีความจุสูงสุด 2,539 ลิตร กระจกหน้าต่างแถวหลังและกระจกฝาท้าย เคลือบ Silver กันความร้อนมาให้
Tesla Model Y L ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฟฟ้า มอเตอร์คู่ติดตั้งฝั่งละตัว ขับเคลื่อนสี่ล้อ ด้านหน้า กำลังสูงสุด 142 กิโลวัตต์ ด้านหลัง กำลังสูงสุด 198 กิโลวัตต์ รวมกำลังสูงสุดได้ 331 กิโลวัตต์ เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 201 กิโลเมตร/ชั่วโมง แบตเตอรี่เป็นแบบ Ternary Lithium เพิ่มความจุจากเดิม 78.4 เป็น 82 kWh ขับได้ไกลสุดเป็นระยะทาง 751 กิโลเมตร (CLTC) รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 250 kW ส่วนน้ำหนักตัวอยู่ที่ 2,088 กิโลกรัม
Tesla Model Y L มาพร้อมกับช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone ส่วนด้านหลังเป็น Multi-Link โช๊คอัพเป็นแบบไฟฟ้าปรับการทำงาน ตามความเร็วและสภาพถนน ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่คงเดิม ทำงานร่วมกับชิพ AI จำนวน 4 ตัว พร้อมกล้องรอบคัน 8 จุด คาดว่ากำหนดการส่งมอบในจีน จะเริ่มขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ส่วนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่นั่นอยู่ที่ 339,000 หยวน (ราว 1,539,000 บาท) ขยับขึ้นมาจาก Tesla Model Y AWD Long-Range ซึ่งมีค่าตัวเริ่มต้นที่จีน 313,500 หยวน (ราว 1,423,000 บาท)
ที่มา: carnewschina, autohome
ภาพรถยนต์คันจริง: autohome