Rolls-Royce Motor Cars เปิดตัวผลงานสั่งทำในตระกูล Coachbuild Droptail ลำดับที่ 3 จากที่มีอยู่ทั้งหมด 4 คัน โดยคันนี้มีชื่อเรียกว่า Arcadia ซึ่งมีที่มาจากตำนานกรีกโบราณ ไว้ใช้เรียกขานสถานที่ “สวรรค์บนโลก” สำหรับผลงานนี้ใช้เวลาในการรังสรรค์นานกว่า 4 ปี ก่อนจะแล้วเสร็จจนส่งมอบให้ในพิธีที่จัดขึ้น ณ สิงคโปร์ ส่วนก้าวแรกเริ่มต้นขึ้นในปี 2019 ที่ทีมงานได้นำเสนอภาพร่างดีไซน์ด้วยมือ และลูกค้าพึงพอใจจนระบุว่า ขอให้รถยนต์คันจริงออกมาเหมือนภาพร่างนี้มากที่สุด
ทีมงาน Rolls-Royce Coachbuild คุมโทนของ Rolls-Royce Arcadia Droptail ให้ดูสงบและเป็นธรรมชาติ จึงใช้สีขาวที่มีประกายด้วยการผสมอนุภาคอะลูมิเนียม และกระจกเข้าไปในเนื้อสี เมื่อสะท้อนกับแสง จะยิ่งรับกับอะลูมิเนียมที่บรรจงติดตั้งไว้รอบคัน สำหรับชิ้นส่วนตัวถังด้านล่างที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ จะถูกปกปิดด้วยสีพิเศษสีเงิน Bespoke silver ปิดท้ายด้วยกระจังหน้าแบบ kinked vane และล้อปัดเงาขนาด 22 นิ้ว
ห้องโดยสารของ Rolls-Royce Arcadia Droptail ตกแต่งด้วยไม้ Santos Straight Grain ซึ่งท้าทายมากเพราะแตกหักได้ในขั้นตอนการตากแห้ง ซึ่งบริษัทใช้ไม้ไปทั้งสิ้น 233 ชิ้นมาประกอบเข้าด้วยกัน และ 73 ชิ้นในนี้อยู่บนตัวถังส่วนหลัง โดยโครงสร้างแต่ละชิ้นส่วน ล้วนใช้คาร์บอนไฟเบอร์เทคโนโลยี F1 มาเป็นโครงก่อนจะติดตั้งไม้เข้าไป ทั้งหมดยังผ่านการเคลือบด้วยแลกเกอร์แบบพิเศษ ซึ่งไม่ใช่แค่ต้องผสมสารเคมีใหม่เท่านั้น แต่ยังต้องใช้เครื่องมือเฉพาะ
ศิริรวมแล้วทีมงานต้องใช้เวลาพัฒนา เฉพาะงานไม้เป็นเวลานานกว่า 8,000 ชั่วโมง ส่วนอีกชิ้นที่หินไม่แพ้กันคือนาฬิกา โดยบริษัทระบุว่านี่คือนาฬิกาที่มีความซับซ้อนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Rolls-Royce ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาราว 2 ปี และใช้เวลาในการประกอบนาน 5 เดือน โดยทุกชิ้นผ่านการขัดเงาหรือขัดด้านด้วยมือ และบางชิ้นมีขนาดความหนาเพียง 0.1 มิลลิเมตร จนทีมงานต้องใช้กล้องขยาย 100 เท่า ในการทำงานนี้
ปิดท้ายงานสร้างภายในของ Rolls-Royce Arcadia Droptail ด้วยการใช้สีทูโทนที่ผสานสีพิเศษ ที่พัฒนาขึ้นใหม่โดยเฉพาะระหว่างสีขาว Bespoke White hue และน้ำตาล Bespoke tan ส่วนที่มานั้นคือตั้งชื่อสีตามนามสกุลของลูกค้า พร้อมทั้งสงวนสิทธิ์ไว้ให้ลูกค้าใช้แต่เพียงผู้เดียว และพัฒนาขึ้นเพื่อให้เข้ากับสีของเนื้อไม้ที่ใช้ในรถยนต์คันนี้อย่างไร้ที่ติ
ที่มา: Rolls-Royce