Peugeot 3008 ออกขายมานานกว่า 7 ปี ใน 130 ประเทศทั่วโลก พร้อมคว้ายอดขายไปมากกว่า 1.32 ล้านคัน ล่าสุด มีการเพิ่มรุ่นที่ใช้ขุมพลัง EV ในชื่อ Peugeot e-3008 โดยมีสีตัวถังให้เลือก 6 สี ประกอบด้วย สีน้ำเงิน Obsession Blue ที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อโดยแสง, สีน้ำเงิน Ingaro Blue, สีขาว Okenite White, สีดำ Nera Black, สีเทา Cumulus Grey และ สีเทา Titane Grey ส่วนมิติตัวถังมีรายละเอียดดังนี้
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,540 x 1,890 x 1,640 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,730 มิลลิเมตร
Peugeot e-3008 มาในตัวถัง Fastback SUV พร้อมปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่กับโคมไฟหน้า LED ทรงเพรียวแบบสองชั้นผสานเอกลักษณ์กรงเล็บ 3 แถบ เสริมด้วยกระจังหน้าที่ออกแบบมาให้ช่วยรีดลม ทั้งยังมีล้อที่เสริม aerodynamics ขนาด 19 – 20 นิ้ว และสปอยเลอร์หลังคาเป็นแบบ Floating ทั้งหมดส่งผลให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศอยู่ที่ 0.28 Cx ส่วนไฟท้ายคงเอกลักษณ์ประจำค่ายกับกรงเล็บ 3 แถบเช่นกัน
ห้องโดยสาร Peugeot e-3008 เป็นแบบ Panoramic i-Cockpit โดดเด่นด้วยระบบแสดงผลพร้อมหน้าจอโค้งความละเอียดสูงขนาด 21 นิ้ว ออกแบบให้เอนหาผู้ขับขี่ แต่ผู้โดยสารหน้าสามารถใช้งานร่วมได้ ทั้งยังมี i-Toggles ปุ่มกดลัดให้ผู้ใช้งานเลือกตั้งค่า 10 เมนูโปรดที่ใช้งานบ่อย ระบบไฟ Ambient Lighting เป็นไฟ LED ปรับสีได้ 8 สี ระบบปรับอากาศมีที่กรอง Air Quality System และปิดท้ายกับพื้นที่บรรทุกสัมภาระความจุ 520 ลิตร
ขุมพลังของ Peugeot e-3008 EV เป็นระบบไฟฟ้าซึ่งมีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ประกอบด้วย
- Standard Range แบตเตอรี่ความจุ 73 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 525 กิโลเมตร
- Long Range แบตเตอรี่ความจุ 98 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว กำลังสูงสุด 230 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 700 กิโลเมตร
- Dual Motor มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังสูงสุด 320 แรงม้า ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 525 กิโลเมตร
การชาร์จแบบ AC มีขนาด 11 kW เป็นมาตรฐาน และสามารถเพิ่มเป็น 22 kW ได้ส่วนแบบ DC รองรับที่ชาร์จขนาด 160 kW ชาร์จไฟจาก 20 – 80% ภายใน 30 นาที ด้านระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน Peugeot e-3008 มีทั้งระบบล็อคความเร็วโดยอัตโนมัติ แบบแปรผันตามรถยนต์คันหน้า และหยุดรถจนนิ่งก่อนจะออกตัวได้เอง, ระบบรักษารถยนต์ให้อยู่กลางช่องจราจร, ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา และระบบตรวจจับสภาพผู้ขับขี่
platform เป็นแบบ STLA Medium ปรับช่วงล่างหน้าหลังใหม่ ทั้งยังมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำกว่าเดิม ช่วยให้เกาะถนนดีขึ้น Peugeot e-3008 มีให้เลือกด้วยกันสองรุ่นย่อยระหว่าง Allure และ GT ส่วนการผลิตจะมีขึ้นที่โรงงาน Sochaux ในฝรั่งเศส และจะเริ่มออกจำหน่ายตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2024 เป็นต้นไป ในอนาคตจะมีการเพิ่มรุ่นที่ใช้ขุมพลัง Hybrid และ Plug-in Hybrid ตามมาเสริมทัพด้วย
ที่มา: Stellantis, paultan