Nio ได้เปิดตัวรถยนต์ SUV พิกัด Mid-Sized ในชื่อ Onvo L60 ที่ประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2024 พร้อทเปิดหน้าท้าชก Tesla Model Y ด้วยการโฆษณาว่ามีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานต่ำกว่า และยังมีภายในที่กว้างขวางกว่า พร้อมทำวีดีโอเปรียบเทียบให้ชมกันเสียด้วย ด้านรายละเอียดมิติตัวถังดังนี้
- ยาว : 4,828 มิลลิเมตร
- กว้าง : 1,930 มิลลิเมตร
- สูง : 1,616 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,950 มิลลิเมตร
Onvo L60 ออกแบบโดย Raul Pires อดีตฝ่ายออกแบบของ Bentley และมีประวัติการทำงานร่วมกับ Volkswagen มานานกว่า 20 ปี ดีไซน์ด้านหน้าคงเอกลักษณ์ของ Nio เอาไว้กับไฟหน้าสองชั้น เส้นสายตัวถังเน้นความลู่ลม มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.229 Cd ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ชายล่างตัวถังตัดสีดำรอบคัน ด้านหลังลาดลงสไตล์ Fastback และยกส่วนปลายของฝาท้ายขึ้นให้เหมือนสปอยเลอร์หลัง ไฟท้ายเป็นสองก้อนเพรียวบาง ไม่เชื่อมต่อกันตลอดแนว ปิดท้ายด้วยล้อลาย 5 ก้านคู่คล้ายรูปดาว
ห้องโดยสารของ Onvo L60 รองรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง ด้านระบบแสดงผลจะไม่มีมาตรวัดให้ผู้ขับขี่ และมีแต่หน้าจอ Head-up display แสดงข้อมูลบนกระจกหน้าขนาด 13 นิ้ว ส่วนหน้าจอสัมผัสกลางเป็นแบบ LCD ขนาด 17.2 นิ้ว และมีจอแสดงผลด้านหลังติดหลังที่วางแขนกลางขนาด 8 นิ้ว ส่วนวัสดุที่ใช้หุ้มเบาะเป็น OEKO-TEX 100 รองรับว่าเป็นมิตรกับทารก ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ต่อผิวหนังและ anti-bacteria ส่วนประโยชน์ใช้สอย สามารถปรับเบาะได้หลายรูปแบบ รวมถึงเตียงยาวหรือวางที่นอนสูบลงยังได้
ขุมพลังของ Onvo L60 เป็นระบบไฟฟ้า EV เบื้องต้นระบุแค่ว่ามาพร้อมเทคโนโลยีกำลังไฟ 900 โวลต์ และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานต่ำสุด 12.1 kWh/100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC และดีกว่าของ Tesla Model Y ที่ทำตัวเลขได้ 12.5 kWh ทั้งยังรองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่สถานีได้ และมีแบตเตอรี่ให้เลือก 3 ขนาดดังนี้
- ขนาด 60 kWh ขับขี่ได้ไกลสุด 555 กิโลเมตร
- ขนาด 90 kWh ขับขี่ได้ไกลสุด 730 กิโลเมตร
- ขนาด 150 kWh ขับขี่ได้ไกลสุดมากกว่า 1,000 กิโลเมตร
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ Macpherson Strut ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Five-Link ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มีระบบขับขี่อัตโนมัติ ที่ทำงานร่วมกับเรดาร์และกล้องความละเอียดสูง Onvo L60 เปิดรับจองแล้วที่ประเทศจีน สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่นั่น 219,900 หยวน (ราว 1,114,000 บาท) ก่อนเริ่มส่งมอบในเดือนกันยายนนี้ และยังมีแผนบุกตลาดโลกในช่วงปลายปีนี้ด้วย
ที่มา: carnewschina, autohome
