Honda Civic เวอร์ชั่นสหรัฐฯ มีรุ่นปรับอุปกรณ์ตามมาแล้ว ในฐานะรุ่นปี 2025 โดยแทนที่ขุมพลัง 1.5 ลิตร เทอร์โบ ด้วยขุมพลัง Hybrid มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 200 แรงม้า พร้อมกับปรับหน้าตาและเพิ่มลูกเล่นในห้องโดยสาร ตอบโจทย์ความต้องการด้วยตัวถังสองแบบเช่นเคย ทั้งยังเพิ่มสีใหม่อีก 4 สี ประกอบด้วย สีเงิน Solar Silver Metallic, สีเทา Urban Gray Pearl, สีน้ำเงิน Blue Lagoon Pearl (เฉพาะ Sedan) และ สีเบจ Sand Dune Pearl
ภายนอกของ Honda Civic รุ่นปรับอุปกรณ์ ปรับหน้าใหม่ทั้งกันชนและกระจังหน้าให้ดูสปอร์ตกว่าเดิม และยังใช้ไฟท้ายรมดำในโทนสีที่เข้มขึ้น ในรุ่น Hybrid เพิ่มกรอบไฟหน้าสีเดียวกับตัวถัง และสเกิร์ตหน้าเพิ่มความเตี้ย รุ่นย่อย Sport ทุกรุ่นให้ล้อสีเข้มขนาด 18 นิ้ว ส่วน Sport Touring Hybrid ยังได้อภิสิทธิ์หนึ่งเดียวที่มาพร้อมกับล้อก้านเงาตัดขอบในสีเทา Machine
ห้องโดยสารของ Honda Civic รุ่นปรับอุปกรณ์ เพิ่มทางเลือกสีเทาให้ในรุ่นที่ใช้ขุมพลัง Hybrid ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเบ้าชาร์จ USB Type C ด้านหน้า ในรุ่นท็อปอย่าง Sport Touring Hybrid จะมีอุปกรณ์มาตรฐานทั้งเบาะหนัง, ลำโพง BOSE 12 จุด, หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay ไร้สาย ทั้งยังมีการติดตั้งเทคโนโลยี Google built-in มาให้เป็นครั้งแรกใน Civic
Honda Civic รุ่นปรับอุปกรณ์ เวอร์ชั่นสหรัฐฯ มีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือกสองแบบด้วยกัน เบื้องต้นเปิดเผยข้อมูลแค่ว่าแบบแรกเป็นแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร สันดาปล้วน ส่วนอีกแบบเป็น Hybrid ที่ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าคู่เข้ากับขุมพลังแบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson Cycle ทั้งระบบให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร โดยบริษัทระบุว่านี่คือ Civic ที่แรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา หากไม่นับตระกูล Type R
รุ่นที่ใช้ขุมพลัง Hybrid สามารถปรับระดับการนำพลังงานจากการเบรกกลับมาใช้ใหม่ได้ 4 ระดับ ทั้งยังเป็น Civic ที่มีเสียงรบกวนต่ำที่สุด โดยมาพร้อมกับระบบ Active Noise Control ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน Honda Civic รุ่นปรับอุปกรณ์มี Honda Sensing ในทุกรุ่นย่อย ซึ่งรวมถึงระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ ตรวจจับคนเดินถนนได้ และระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาขณะถอยออกจากมุมอับ
Honda Civic รุ่นปรับอุปกรณ์ จะเริ่มออกจำหน่ายตัวถัง Sedan ก่อนในเดือนหน้า ส่วนตัวถัง Hatchback จะตามมาในฤดูร้อนของสหรัฐฯ หรือราวเดือนมิถุนายน – สิงหาคมนี้ และจะมีการประกาศราคาต่อไป โดยตัวถัง Sedan จะผลิตขึ้นจากโรงงานในเมือง Ontario ของแคนาดา ส่วนตัวถัง Hatchback จะผลิตขึ้นจากโรงงานในรัฐ Indiana ของสหรัฐฯ สำหรับรุ่นย่อยมีให้เลือก 4 รุ่น ประกอบด้วย LX (เฉพาะ Sedan), Sport, Sport Hybrid และ Sport Touring Hybrid ซึ่งสองรุ่นแรกใช้เครื่องยนต์สันดาปล้วน
ที่มา: Honda