Kia Sportage มีรุ่น Minorchange ตามมาเสริมทัพแล้วในเกาหลีใต้ โดยความเปลี่ยนแปลงครอบคลุมทุกประการทั้งภายนอก, ภายใน, ขุมพลัง และช่วงล่าง เริ่มต้นกับดีไซน์ที่เปลี่ยนชุดหน้าใหม่หมด ทั้งไฟหน้าโคมใหม่, กระจังหน้า และกันชนหน้าที่ดูสปอร์ตขึ้น ไฟท้ายดูเหมือนจะยังเป็นโคมเดิม แต่เปลี่ยนกราฟฟิกภายในใหม่ กันชนหลังเปลี่ยนใหม่เช่นกัน ส่วนล้อเพิ่มลายใหม่มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 17 – 19 นิ้ว ปิดท้ายด้วยสีตัวถังที่มีให้เลือก 8 สี รวมถึงสีใหม่อย่างสีเทา Wolf Gray และ สีน้ำเงิน Heritage Blue
ห้องโดยสารของ Kia Sportage Minorchange มีให้เลือก 3 สี ประกอบด้วย สีดำ Black, สีเทา Navy Grey และสีน้ำตาล Lounge Brown ซึ่งเป็นสีใหม่ เสริมด้วยลูกเล่นใหม่ ทั้งหน้าจอแสดงผลแบบจอโค้งคู่ ขนาดจอละ 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ Head-up Display แบบใหม่ พวงมาลัยปรับใหม่เป็นแบบสองก้าน ติดตั้งกล้องเพื่อตรวจจับผู้ขับขี่ว่ามองถนนอยู่ และมีเซนเซอร์ตรวจว่าจับพวงมาลัยหรือไม่ ช่องแอร์ปรับใหม่ให้บางลง ทั้งยังปรับปุ่มกดให้เป็นปุ่มจริงมากขึ้น และมีโทนสีไฟในห้องโดยสาร Ambient Lighting ให้เล่นเยอะกว่ารุ่นก่อน
ขุมพลังของ Kia Sportage Minorchange มีรายละเอียดโดยสังเขปดังนี้
- เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร รองรับ LPG กำลังสูงสุด 146 แรงม้า คงเดิมสำหรับรุ่นเริ่มต้น
- เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 180 แรงม้า คงเดิมแต่เปลี่ยนระบบส่งกำลังใหม่เป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ที่นุ่มนวลขึ้น จากเดิมที่เป็น Dual Clutch 7 จังหวะ
- เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว กำลังสูงสุดรวมกัน 177 แรงม้า แรงขึ้น 5 แรงม้า ปรับแต่งระบบนำพลังงานจากการเบรกกลับมาใช้ใหม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
Kia Sportage Minorchange เก็บเสียงได้ดีกว่าเดิมเนื่องจากเพิ่มวัสดุซับเสียงรอบคันทั้งเสาหลังคา B-pillar, แดชบอร์ด และแผงประตู โช๊คอัพหน้ายังเปลี่ยนใหม่เป็นแบบ two-way เพิ่มด้วยรูปแบบการขับขี่ Baby & Toddle Mode ที่จะปรับอัตราเร่งให้นุ่มนวลขึ้น เหมาะในกรณีที่มีเด็กทารกหรือเด็กเล็กมาด้วย สำหรับราคาจำหน่ายในเกาหลีใต้ โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยอยู่ระหว่าง 28,360,000 – 48,700,000 วอน (ราว 696,000 – 1,196,000 บาท)