Toyota 4Runner รุ่นล่าสุด เปิดตัวแล้วพร้อมชูจุดเด่นมีขุมพลัง i-FORCE Max hybrid ที่ถือว่าทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งใน 4Runner การันตีความแกร่งด้วยโครงสร้างแบบ TNGA-F แบบเดียวกับที่ใช้ใน Tacoma, Land Cruise และ Tundra โดยเป็นแบบ ladder frame มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double Wishbone ผสานกับช่วงล่างหลังแบบ Multi-link Coil
Toyota 4Runner คงอัตลักษณ์การออกแบบจากบรรพบุรุษ ด้วยกระจกหน้าต่างแถวที่สามแบบ wrap over รวมถึงคงกระจกประตูฝาท้ายที่สามารถเปิดแบบเลื่อนลงได้ โดยทำงานด้วยระบบไฟฟ้าในทุกรุ่นย่อยพร้อมฝาท้ายเปิดปิดไฟฟ้า หากต้องการมาดย้อนยุค รุ่นย่อย Trailhunter คือคำตอบ เพราะจะมาพร้อมกับกระจังหน้าติดยี่ห้อแบบตัวสะกดสีทอง พร้อมเสริมแถบไฟ LED 20 นิ้ว แต่ถ้าชอบความหรู ต้องไปรุ่นย่อย Platinum ที่ใช้สีดำตกแต่งภายนอกอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้มากกว่ารุ่นอื่น
ภายในของ Toyota 4Runner อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี เริ่มต้นกับหน้าจอสัมผัสขนาด 8 หรือ 14 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ส่วนมาตรวัดเริ่มต้นกับขนาด 7 นิ้ว และเปลี่ยนเป็นแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว ในรุ่นบน ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมระบบ Smart Key System ซึ่งมี push start ด้วย และสามารถเพิ่ม Digital Key ซึ่งเจ้าของสามารถแชร์สิทธิ์ในการใช้งานรถยนต์ให้ผู้อื่น โดยที่ไม่ต้องให้กุญแจจริงได้
ขุมพลังของ Toyota 4Runner มีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือกสองแบบ ดังรายละเอียดโดยสังเขปต่อไปนี้
- i-FORCE แบบ 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 278 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
- i-FORCE Max hybrid แบบ 2.4 สูบ ขนาด 4 ลิตร เทอร์โบ พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาด 48 แรงม้า และแบตเตอรี่แบบ NiMH ขนาด 1.87 kWh ทั้งระบบให้กำลังสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 630 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
Toyota 4Runner มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง, ขับเคลื่อนสี่ล้อ part-time และ ขับเคลื่อนสี่ล้อ full-time โดยในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อจะติดตั้ง Auto LSD มาให้ ส่วนระบบ Multi-Terrain Select และ Active Traction Control พร้อม Auto LSD จะติดตั้งมาให้ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ทั้งยังทำมุมไต่ได้ 32 องศา และทำมุมจากได้ 24 องศา และสามารถติดตั้ง Multi-Terrain Monitor หน้าจอแสดงภาพมุมอับช่วยให้ผู้ขับขี่ หลีกสิ่งกีดขวางในมุมอับที่อาจทำให้รถเสียหายได้
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ของ Toyota 4Runner ติดตั้งแพคเกจ Toyota Safety Sense 3.0 มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย โดยมีทั้ง ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติตรวจจับคนเดินถนนได้, ระบบแจ้งเตือนออกนอกช่องจราจร พร้อมหน่วงพวงมาลัยกลับเข้าช่องจราจร, ระบบจดจำป้ายจราจร, ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผันในทุกย่านความเร็ว และระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Proactive Driving Assist
Toyota 4Runner เปิดตัวที่สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2024 และจะประกอบขึ้นจากโรงงานใน Tahara ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะเริ่มออกจำหน่ายที่สหรัฐฯ ในฤดูใบไม้ร่วงหรือราวเดือนกันยายน – พฤศจิกายน 2024 มีให้เลือกด้วยกันถึง 9 รุ่นย่อย ประกอบด้วย SR5, TRD Sport, TRD Sport Premium, TRD Off Road, TRD Off Road Premium, Limited, Platinum, TRD Pro และ Trailhunter
ที่มา: Toyota