Nissan Patrol รุ่นล่าสุด ซึ่งนับเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 7 ได้เปิดตัวแล้วในตะวันออกกลาง โดยพร้อมออกจำหน่ายในย่านนั้นนับตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2024 เริ่มต้นกับสีภายนอกที่มีให้เลือก 7 สีพร้อมสีทูโทนอีก 4 สี ส่วนการออกแบบไฟหน้าและไฟท้ายมาในรูปทรงตัว C สองตัว ด้านหลังยังมีแถบไฟเชื่อมต่อหากันตลอดแนว กระจังหน้ายังคงเป็นแบบ V-Motion ส่วนล้อมีขนาด 22 นิ้ว ด้านลูกเล่นมี Puddle Light ที่จะฉายข้อความ ‘Since 1951’ โดยอัตโนมัติเมื่อผู้ขับขี่ล็อคหรือปลดล็อคประตู โดยปีดังกล่าวเป็นปีที่ Nissan Patrol รุ่นแรกถือกำเนิด
All NEW Nissan Patrol มาพร้อมกับเบาะ 3 แถว อุปกรณ์มาตรฐานอัดแน่นทั้งเบาะปรับไฟฟ้า 8 ตำแหน่งและระบบนวด ระบบแสดงผลมีหน้าจอ Monolith ขนาด 28.6 นิ้ว พร้อมหน้าจอคู่ขนาดจอละ 14.3 นิ้ว ทั้งยังสามารถติดตั้งหน้าจอละคู่ขนาดจอละ 12.8 นิ้วเพิ่มได้ เครื่องเสียงเป็นของ Klipsch Premium Audio แบบ 12 ลำโพง ระบบไฟ Ambient ปรับได้ 64 สี ระบบปรับอากาศมี Biometric Cooling Tech ที่จะปรับการทำงานตามอุณหภูมิของผู้ใช้งานในแต่ละเบาะ ปิดท้ายกับพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า 30%
ขุมพลังของ All NEW Nissan Patrol มีให้เลือกด้วยกันสองแบบ ทั้งแบบ V6 ขนาด 3.8 ลิตร NA กำลังสูงสุด 316 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 386 นิวตันเมตร และ แบบ V6 ขนาด 3.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 425 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมันกว่า V8 แบบเดิม 7% แรงบิดสูงขึ้น 25% ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมระบบ Transfer Lock เป็นครั้งแรกของ Nissan
All NEW Nissan Patrol ปรับรูปแบบการขับขี่ได้ 6 รูปแบบ ประกอบด้วย standard, sand, rock, mud/rut, eco และ sport ช่วงล่างเป็นแบบ Adaptive Air Suspension สั่งปรับระดับขึ้นลงได้ตามต้องการ รวมถึงปรับระดับอัตโนมัติตามสภาพการขับขี่ ด้านระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มี ProPILOT ที่สามารถปรับระดับความเร็วในการขับขี่กึ่งอัตโนมัติได้เอง พร้อมทั้งช่วยควบคุมทิศทางให้อยู่ในช่องจราจร ในส่วนของมุมมองมีทั้งกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และกล้องด้านหน้ามุมกว้าง 170 องศา
ที่มา: Nissan
