Nissan Kicks รุ่นล่าสุด ได้เปิดตัวที่สหรัฐฯ แล้วเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2024 พร้อมชูจุดเด่นนานับประการทั้งตัวถังใหญ่ขึ้น, ภายในกว้างกว่าพร้อมพื้นที่บรรทุกสัมภาระมากสุดในกลุ่ม, ground clearance สูงสุดในกลุ่ม และ ขุมพลังตอบสนองดีกว่าเดิม ทั้งยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกเป็นครั้งแรก ด้านมิติตัวถังมีรายละเอียดดังนี้
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,366 x 1,800 x 1,630 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 2,656 มิลลิเมตร
- Ground Clearance : 213 มิลลิเมตร
Nissan Kicks ปรับโทนการออกแบบใหม่ให้ดูเข้มกว่าเดิม ด้วยเหลี่ยมสันที่ชัดเจนขึ้น พร้อมกับแบ่งสัดส่วนตัวถังออกเป็นสองชั้นอย่างชัดเจน จากการติดกาบพลาสติกสีดำบริเวณชายล่างรอบคัน ด้านหน้าแปลกตากับไฟหน้าที่มีลักษณะเหมือนตัว T และแบ่งออกเป็น 5 ระดับรับกับซี่กระจังหน้าแนวนอน ด้านหลังมีไฟท้ายรูปตัว C คว่ำเชื่อมต่อหากันตลอดแนว ทั้งยังมีหลังคา Sunroof ขนาดใหญ่ เปิดให้แสงเข้าห้องโดยสารได้มาก ช่วยให้ภายในดูกว้างขึ้น
หน้าจอแสดงผลในรุ่นมาตรฐานของ Nissan Kicks อยู่ที่ 7 นิ้ว ส่วนรุ่นท็อปอยู่ที่ 12.3 นิ้ว ซึ่งมาพร้อมแผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบไวต่อการสัมผัส และตกแต่งด้วยสีแดงรอบห้องโดยสาร เบาะเป็นแบบ Zero Gravity ออกแบบให้ทุกที่นั่งผ่อนคลายลดความเมื่อยล้า ด้านประโยชน์ใช้สอย มีช่องชาร์จ USB Type-C 4 จุด, แท่นชาร์จไร้สาย, ช่องเก็บของข้างประตูวางแก้ว Yeti ได้ และมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระมีความจุระหว่าง 849 – 1,699 ลิตร
ขุมพลังของ Nissan Kicks เป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส MR20DD แบบ 4 สูบ ขนาด 1,997 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.1 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.7 : 1 กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า หรือขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ซึ่งอย่างหลังมีคำสั่ง Snow ด้วย
ด้านระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Nissan Kicks มี Nissan Safety Shield 360 เป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อยซึ่งมีหลายระบบด้วยกันรวมถึง ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยด้านหน้าตรวจจับคนเดินถนนได้ ส่วนในรุ่นท็อปพิเศษกว่า เพราะเพิ่ม ProPILOT Assist ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ โดยจะปรับพวงมาลัยเองเพื่อรักษาตำแหน่งให้อยู่กลางเลน
Nissan Kicks ทุกคันมาพร้อมกับช่วงล่างแบบ Independent Strut ในด้านหน้า ส่วนด้านหลังต่างกัน โดยในรุ่นขับหน้าเป็นแบบ Twist Beam ส่วนขับสี่เป็น Multi-link สำหรับรุ่นย่อยจะมีให้เลือก 3 รุ่น ประกอบด้วย S, SV และ SR พร้อมสองทางเลือก Premium packages ให้ติดตั้งเพิ่ม โดยจะมีการประกาศราคาอีกครั้ง เมื่อใกล้ถึงวันออกจำหน่ายในฤดูร้อนของแคนาดาและสหรัฐฯ หรือราวเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2024
ที่มา: Nissan
