ภาครัฐของออสเตรเลียกำหนดให้รถยนต์รุ่นใหม่ทุกรุ่นที่ออกจำหน่ายที่นั่น ต้องมีระบบเบรกอัตโนมัติมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานภายในเดือนมีนาคม 2025 และผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ต่างติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้วในตอนนี้ รวมไปถึงกระบะซึ่งเดิมทีมีเพียง 2 รุ่นที่ยังไม่มีระบบนี้รวมถึง LDV T60 ที่พึ่งส่งรุ่นปรับอุปกรณ์ตามมาพร้อมเทคโนโลยีนี้ให้เสียที แต่ยังไม่ให้ครบทุกรุ่นย่อย ทั้งยังเสริมอุปกรณ์หลายรายการ และเพิ่มราคาจากเดิมอีก 4,500 AUD (ราว 109,000 บาท)
ภายนอกของ LDV T60 รุ่นปรับอุปกรณ์ ปรับดีไซน์ใหม่ไปใช้ชุดหน้าแบบเดียวกับเวอร์ชั่นจีน พร้อมทั้งใช้สีดำเงาในการตกแต่งรอบคัน ทั้งในส่วนของกระจังหน้า, คิ้วข้างประตู, มือเปิดประตู, กันชนหน้าหลัง และกระจกมองข้างที่พับเก็บไฟฟ้าและมีระบบไล่ฝ้า เสริมด้วยล้อลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พื้นกระบะหลังยังพ่นสเปรย์มาด้วย แถมฝากระบะหลังที่ล็อคได้
ห้องโดยสารของ LDV T60 รุ่นปรับอุปกรณ์ เงียบขึ้นจากการเพิ่มวัสดุซับเสียงในห้องเครื่องและผนังตัวถัง ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติพิเศษกว่า ด้วยการย้ายด้ามเกียร์ไปเป็นเกียร์คอ ทำให้มีแท่นชาร์จไร้สายเพิ่ม ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มมาใหม่มีทั้ง แดชบอร์ดใหม่พร้อมมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay & Android Auto และช่องชาร์จ USB เพิ่มเป็น 3 จุด
ขุมพลังของ LDV T60 รุ่นปรับอุปกรณ์ คงเดิมกับเครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร โดยมีการปรับแต่ง software ใหม่ให้ส่งมอบกำลังได้อย่างเรียบเนียนขึ้น และมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีขึ้นเล็กน้อย แต่ตัวเลขสมรรถนะไม่ต่างจากเดิม ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ on-demand
LDV T60 รุ่นปรับอุปกรณ์ เปลี่ยนช่วงล่างหลังจากแหนบเป็นคอยล์สปริง ซึ่งไม่เพียงแต่นุ่มนวลขึ้น แต่ยังเพิ่ม Ground Clearance อีก 5 มิลลิเมตร เป็น 220 มิลลิเมตร รวมถึงรองรับน้ำหนักบรรทุกที่มากขึ้นจากเดิมได้อีก 70 – 80 กิโลกรัม แล้วแต่รุ่น พวงมาลัยเปลี่ยนใหม่เป็นแบบเพาเวอร์ไฟฟ้า พิเศษในรุ่นเกียร์อัตโนมัติยังเพิ่มระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาให้หลายรายการ รวมถึงเซนเซอร์จอดด้านหน้า
โดยระบบที่เพิ่มมามีทั้ง ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงชน, ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน และระบบช่วยรักษาตัวรถยนต์ให้อยู่ในช่องจราจร LDV T60 รุ่นปรับอุปกรณ์ พร้อมออกจำหน่ายแล้วในออสเตรเลีย โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อยหลัก ประกอบด้วย Pro, Luxe และ Plus สนนราคาจำหน่ายที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย 38,990 – 49,490 AUD (ราว 946,000 – 1,201,000 บาท)
