นายชู กังจื้อ (Mr. Shu GangZhi) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัว Neta X ในครั้งนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 1,000 คัน/เดือน โดยในช่วง 2-3 เดือนแรกจะเป็นการนำเข้าจากประเทศจีน และจะเริ่มผลิตในประเทศไทยช่วงต้นปี 2568 ซึ่งการเปิดราคาจำหน่ายในครั้งนี้เป็นราคาที่รวมส่วนลดจากมาตรการของภาครัฐแล้วภายใต้มารตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV 3.5) โดยบริษัทได้ทำตามข้อกำหนดของรัฐ
“โดยทั่วไปปกติรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีและระบบอัจฉริยะทั้งหลาย จะมีราคาที่สูและมีต้นทุนการผลิตที่สูง แต่สำหรับในประเทศไทยเราคำนึงถึงผู้บริโภคเสมอในการตั้งราคาเพื่อให้เข้าถึงได้ทุกคน”
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการพูดคุยกับบริษัทแม่ประเทศจีน แต่นโยบายการตั้งราคาจำหน่ายเป็นนโยบายของแต่ละประเทศ ซึ่ง เนต้า ประเทศไทย ได้มีการใช้ข้อมูลฐานลูกค้าที่มีมากกว่า 1.7 หมื่นคน มาเป็นส่วนช่วยนการพิจารณาการพัฒนารถยนต์และการตั้งราคาจำหน่าย
อย่างไรก็ตาม บริษัทอยากให้ผู้บริโภคเปิดรับแบรนด์ เนต้า ในฐานะแบรนด์ของคนไทย เนื่องจากเรามาทำการตลาดในประเทศไทย พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อคนไทย และ เรายังมีการตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ราคาอย่างเป็นทางการ NETA X รถไฟฟ้า100% : 739,000 – 799,000 บาท (นำเข้า CBU) | B-SUV+ แบต 62 kWh วิ่งไกล 480 km.
สำหรับ สถานการณ์ตลาดที่ชะลอตัวในช่วงต้นปีบริษัทก็อยู่ในสภาวะที่สอดคล้องกับตลาดเช่นเดียวกัน โดยครึ่งปี เนต้า มียอดขายอยู่ที่ 4,000 คัน มาจากปัจจัยการปรับการจำหน่ายจากโมเดลนำเข้าจากประเทศจีนเป็นโมเดลที่ผลิตในประเทศไทย รวมถึงสถานการณ์การอนุมัติสินเชื่อ (ไฟแนนซ์) เข้มงวด
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเปิดตัว NETA X ในวันนี้จะมีการยืนราคาไปถึงเมื่อไร กล่าวว่า ไม่มีใครตอบได้ แต่วันนี้เป็นราคาที่ดีที่สุดที่เรามอบให้กับผู้บริโภค ส่วนในเรื่องสงครามราคา เป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้และไม่ทราบว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและเราเน้นเรื่องการทำโปรโมชั่น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เนต้า ชี้ไตรมาส 2/2567 ตลาดรถยนต์ในไทยลดลงแตะจุดต่ำสุด
ส่วนแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะมีการเปิดตัว 4 รุ่นใน 2-3 ปีจากนี้ และจะมีรุ่นพรีเมี่ยม เปิดตัวให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัส ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนการเปิดตัวรถยนต์ที่ไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้า อย่างในประเทศจีนมีเทคโนโลยี Range Extended Electric Vehicle (REEV) ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาแนะนำมาสู่ในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้
