บริษัท ดิฟเฟอเรนเชียล (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยตลาด เปิดเผยผลการศึกษาเป็นครั้งแรกของ “การศึกษาวิจัยดัชนีประสบการณ์ลูกค้าด้านความพึงพอใจในการซื้อรถยนต์ ในงานจัดแสดงรถยนต์ (Motor Exhibition Sales Satisfaction Index (MSSI)SM)” ซึ่งดำเนินการในช่วงงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 หรือ มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2025 Motor Expo 2025 ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568
การศึกษานี้ เป็นการประเมินประสบการณ์การซื้อรถของลูกค้าต่อแบรนด์รถยนต์ต่าง ๆ อย่างเป็นอิสระ โดยอ้างอิงจากมุมมองของลูกค้าที่จองซื้อรถในงานจัดแสดงยานยนต์ชั้นนำที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อมุ่งวัดระดับความพึงพอใจโดยรวมของผู้บริโภคที่ทำการจองรถยนต์ภายในงาน โดยประเมินผลผ่าน 4 ปัจจัยหลักที่สร้างความพึงอใจต่อประสบการณ์การซื้อรถยนต์ (โดยเรียงความสำคัญจากมากไปน้อย) ได้แก่
- กระบวนการเลือกซื้อรถยนต์
- การเจรจาต่อรองและข้อเสนอด้านราคา
- การปฏิสัมพันธ์กับพนักงานขายและผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์
- ประสบการณ์ภายในบูธจัดแสดง
การศึกษาในปี 2568 นี้อ้างอิงจาก การสัมภาษณ์ผู้ซื้อรถยนต์ใหม่จำนวน 1,523 ราย ซึ่งดำเนินการภายในงานทันทีหลังจากลูกค้าทำการจองซื้อรถ และลงทะเบียน ณ จุด “ซื้อรถ ชิงรถ” ของผู้จัดงานฯอย่างเป็นทางการ
Chery ครองคะแนนรวมอันดับหนึ่งด้วยคะแนน 936 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 1,000 คะแนน) แสดงให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่โดดเด่น และสม่ำเสมอในทุกมิติของประสบการณ์การขาย JAECOO อยู่ในอันดับที่สอง ด้วยคะแนน 911 คะแนน ตามมาด้วย AION ในอันดับที่สาม ด้วยคะแนน 902 คะแนน
โดยประสบการณ์ต่อขั้นตอนในการเลือกซื้อรถ เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อความพึงพอใจในการซื้อรถยนต์ รองลงมาเป็นเรื่องการเจรจาตกลง และส่วนลด ของแถมที่ได้รับ ซึ่งทั้งสองปัจจัยมีน้ำหนัก 35% และ 25% ตามลำดับ สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของโปรโมชั่น แคมเปญที่นำเสนอภายในงาน การนำเสนอรุ่นรถที่ลูกค้าสนใจและการให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน รวมถึงการช่วยลูกค้าเปรียบเทียบรุ่นรถที่ลูกค้าพิจารณาเป็นตัวเลือก
การเจรจาต่อรองและข้อเสนอด้านราคา เป็นปัจจัยที่ลูกค้ามีความพึงพอใจต่ำที่สุด โดยมีคะแนนเฉลี่ย 870 คะแนน แสดงให้เห็นว่าลูกค้ายังคงมีความอ่อนไหวกับราคา โปรโมชั่น และความคุ้มค่าของข้อเสนอภายในงาน ขณะที่ลูกค้ามีความพึงพอใจสูงที่สุดต่อเรื่องของ การปฏิสัมพันธ์กับพนักงานขายและผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ โดยมีคะแนนเฉลี่ย 896 คะแนน สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของพนักงานที่พบปะลูกค้าซึ่งต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ความพร้อม และการให้บริการอย่างมืออาชีพ
นายศิรส สาตราภัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิฟเฟอเรนเชียล ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ในงานมหกรรมยานยนต์ ซึ่งลูกค้าต่างรอคอยที่จะมาเลือกชม เลือกซื้อรถยนต์ ลูกค้าแต่ละคนอาจจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในการเยี่ยมชม หาข้อมูล และตัดสินใจ ดังนั้นแบรนด์ที่เข้าใจความคาดหวังของลูกค้า และนำเสนอแพคเกจโปรโมชั่นที่โดนใจ รวมถึงนำเสนอข้อมูลที่ชัดเจนและช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเปรียบเทียบ นอกจากจะส่งเสริมในเรื่องของโอกาสในการปิดการขายแล้วยังทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ความพึงพอใจที่ดีกลับไปด้วย ซึ่งการศึกษาและบริการที่ปรึกษาของดิฟเฟอเรนเชียลจะช่วยสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์ (OEM) ให้เตรียมความพร้อมและยกระดับการดำเนินงาน สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ในครั้งต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น





