JEEP หวนกลับสู่ตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้การบริหารงานของ เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์เปอโยต์ในบ้านเรา เบื้องต้นใช้โชว์รูม-ศูนย์บริการร่วมกับเปอโยต์ ตั้งเป้าขายปีแรก 140 คัน ประเดิมนำเข้า JEEP WRANGLER RUBICON 2 ประตู และ4 ประตู และ GLADIATOR พริอมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43
บริษัทเบลฟอร์ต ออโตโมบิล ประเทศไทย ได้ลงนามในสัญญา เป็นผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ JEEP ในประเทศไทย แต่เพียงผู้เดียวแล้ว หลังจากที่ผ่านมา รถยนต์ JEEP ถูกทำตลาดผ่านผู้นำเข้าอิสระ หรือ เกรย์มาร์เก็ต มาโดยตลอด หลังจากที่ ไครสเลอร์ ประเทศไทย ปิดตัวไป และเคยประกอบ JEEP Cheerokee ในไทยเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
การที่ JEEP ตัดสินใจมาร่วมหอลงโรงกับ เบลฟอร์ต ออโตโมบิล ก็เพราะว่า เบลฟอร์ตฯ เป็นตัวแทนจำน่ายรถยนต์เปอโยต์ในบ้านเรา ซึ่งเปอโยต์ กับ JEEP นั้นมีบริษัทแม่เดียวกันคือ บริษัทสเตลแลนติส ที่มีแบรนด์รถยนต์ในมือมากถึง 14 แบรนด์ ซึ่งทาง สเตลแลนติส บอกว่ากำลังมองหาโรงงานประกอบ JEEP ในภูมิภาคนี้
โดย สเตลแลนคติด กำลังศึกษาการประกอบรถ JEEP อยู่ เพราะปัจจุบัน สเตลแลนติส มีโรงงานประกอบรถยนต์เปอโยต์ ในมาเลเซีย และเวียดยาม แต่ก็ต้องศึกษาในรายละเอียดว่าจะสามารถขยายกำลังการผลิตมาประกอบ JEEP ได้หรือไม่ ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้
สำหรับเป้าหมายการขายในปีนี้ ทางเบลฟอร์ตฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 140 คัน โดยจะะเป็นการนำเข้าจาก สหรัฐอเมริกาทั้งหมด ซึ่งนโยบายการทำตลาด JEEP ในวันนี้ คือการเจาะกลุ่ม Premium Segment ส่วนลูกค้าของ JEEP ที่ผ่านมาทุกคัน สามารถเข้ามารับบริการได้ที่ โชว์รูม เบลฟอร์ตฯ สาขาสุขุมวิท ได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 และในปี 2565 มีแผนขยายโชว์รูมเป็น 5 สาขาอีกด้วย
นอกจากการได้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ JEEP แล้ว ทางเบลฟอร์ตฯ ยังได้สิทธิการเป็นตัวแทนจำหน่ายชุดแต่ง MOPA ซึ่งเป็นชุดแต่งของ JEEP อีกด้วย
ทั้งนี้ ทางเบลฟอร์ตฯ มีแผนการทำตลาดรถยนต์ JEEP ในอีกหลายรุ่น โดยรุ่นแรกที่จะจำหน่ายคือ JEEP WRANGLER RUBICON ทั้ง 2 ประตู และ 4 ประตู ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 2.0 ลิตร 270 แรงม้า 400 นิวตันเมตร และ JEEP WRANGLER GLADIATOR ซึ่งจะเปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแลล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 43 นี้ พร้อมการประกาศราคาอย่างเป็นทางการในงานดังกล่าว โดยทาง เบลฟอร์ตฯ สามารถส่งมอบรถทั้ง 2 รุ่นนี้ให้กับลูกค้าได้ในเดือนมิถุนายน 2565
ส่วนรถรุ่นใหม่รุ่นอื่นๆนั้น ในช่วงปลายปีมีแผนจะเปิดตัว JEEP Wrangler ไฟฟ้าในบ้านเราอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีแผนจะทำตลาด JEEP ในรุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น JEEP CHEROKEE และ JEEP GRAND CHEROKEE ในปี 2565 อีกด้วย โดยวางระดับราคาจำหน่ายไว้ตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป
ปัจจุบัน JEEP ทำตลาดในภูมิภาคนี้ ทั้ง ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ซึ่งขายได้กว่า 20,000 คัน