นายวิชัย สินอนันต์พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ของ อีซูซุ 9 เดือน (มกราคม–กันยายน) ของปี 2568 อยู่ที่ 46,135 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยคาดว่ายอดขายทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 73,600 คัน ลดลง 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคาดว่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 12.4% หรือลดลง 2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ ด้านภาพรวมตลาดรถยนต์ 9 เดือน ตลาดอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมีตัวเลขยอดขายรวมอยู่ที่ 449,006 คัน เติบโตขึ้น 1.9% โดยทั้งปี 2568 คาดว่าตลาดจะมีอัตราเติบโตขึ้น 3.5% หรืออยู่ที่ 595,000 คัน ซึ่งการเติบโตมากจากรถยนต์นั่งเป็นหลัก สำหรับตลาดรถกระบะยังมียอดจำหน่ายลดลงจากปีก่อน 15.3% มียอดจำหน่ายรวมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 ที่ 107,150 คัน เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบด้านกำลังซื้อของลูกค้าและการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดรายละเอียดมาตรการค้ำประกัน บสย. ” กระบะพี่ มีคลังค้ำ ” สินเชื่อรถกระบะ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับ มาตรการกระตุ้นตลาดรถยนต์อย่าง “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ที่รัฐบาลค้ำประกันสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสการขายรถกระบะที่ครอบคลุมทุกประเภทสินเชื่อ โดยอยากให้ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พิจารณาขยายระยะเวลาโครงการออกไปอีกจากเดิมที่จะสิ้นสุดภายในปี 2568 เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นซึ่งเชื่อว่าจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายรถกระบะได้
ขณะที่ ปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดในทางบวกคือรัฐบาลใหม่ได้มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยแนวคิด “Quick Big Win” เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมในไตรมาสสุดท้าย ส่วนปัจจัยลบกำลังซื้อของผู้บริโภคยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาโดยรวม อีกทั้งหนี้ครัวเรือนและหนี้เสียยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลในเรื่องการปล่อยสินเชื่อรถยนต์
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด อีซูซุ ได้เปิดตัว ISUZU D-MAX และ ISUZU MU-X ใหม่ โดยมั่นใจว่าการเปิดตัวรุ่นใหม่นี้จะสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้นตอบสนองความพอใจของลูกค้าทุกรูปแบบการใช้งาน ซึ่งบริษัทจะพยายามอย่างเต็มที่เหมือนเช่นที่ผ่านมา ซึ่งยอดจำหน่ายเป็นผลมาจากการตัดสินใจของลูกค้าในการเลือกใช้รถอีซูซุ





