นายหยู่ปิน เคอ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เป้าหมายการส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยจากโรงงาน BYD Thailand คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 10,000 คัน ไปยังกลุ่มประเทศยุโรป และ อาเซียน ซึ่งจะเป็นรถยนต์ในกลุ่มพลังงานไฟฟ้า 100% ทั้งหมด ภายใต้มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า EV3.0
ทั้งนี้ การส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยไปยังกลุ่มทวีปยุโรปถือว่ามีต้นทุนที่ต่ำกว่าส่งออกจากประเทศจีน ประกอบกับการนับปริมาณการส่งออก 1:1.5 คัน ถือเป็นโอกาสที่ดีในภาวะตลาดในประเทศไทยชะลอตัว ซึ่งจะทำให้ปริมาณการผลิตครบจำนวนของมาตรการได้
ขณะที่ ที่ผ่านมา บีวายดี ได้มีการเริ่มผลิตชดเชยตามมาตรการดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันยังมีปริมาณคงเหลือการผลิตชดเชยอยู่ที่ราว 20,000 คัน ซึ่งคาดว่าจะครบจำนวนภายในปี 2569 เนื่องจากในปีนี้จะทำให้ไปถึงเป้าหมายอาจจะมีความยากลำบากแต่ก็ต้องพยายาม
ด้านการผลิตชดเชยในปี 2569 มีความท้าทายของตลาดจำนวนมาก แต่ก็ต้องมีการผลิตชดเชยจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์มากขึ้น รวมถึงเงื่อนไขการสนับสนุนจะสิ้นสุดลงโดยคาดว่าหลายแบรนด์ต้องมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อตลาดในด้านการขาย แต่หากไม่ปรับขึ้นราคาก็จะส่งผลกระทบต่อกำไรในการทำธุรกิจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ส่งออกครั้งแรก! BYD Dolphin จากโรงงานประเทศไทยไปทวีปยุโรป
นอกจากนั้น นับตั้งแต่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยบริษัทมองว่า ภาพรวมตลาดในประเทศไทยจะเฉลี่ยอยู่ที่ 800,000 คันต่อปี แต่ในปี 2568 นี้มองว่าตลาดจะไม่ถึง 600,000 คัน เช่นเดียวกับปีก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่คาดหวังไว้ถึง 200,000 คัน โดยตลาดในประเทศไทยควรจะดีกว่านี้ ขณะที่เมื่อลงลึกในรายละเอียดสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 100,000 คัน
“ปัจจุบันตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีขนาดเล็กลงและมีผู้เล่นเยอะขึ้นเลยส่งผลให้เกิดการแข่งขันของสงครามราคา สำหรับ บีวายดี ในปีนี้ยืนยันว่าไม่ค่อยได้เข้าไปเล่นในสงครามราคาแล้ว จากปีก่อนที่เล่นในตลาดสงครามราคาเล็กน้อย”
สำหรับ BYD Shark 6 รถกระบะพลังงานปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ของแบรนด์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรับรองมาตรฐาน (Homologation) ที่กำลังจะเสร็จสิ้นแล้ว โดยภายในช่วงปลายปี 2568 นี้จะพยายามเปิดขายอย่างเป็นทางการ แต่เนื่องด้วยเป็นรุ่นที่นำเข้าจากประเทศจีนและมีอัตราภาษีสูงกว่า 30% จึงทำให้การทำราคายาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ราคาคาดการณ์จำหน่าย BYD SHARK6 DM-O : 1,699,900 บาท (นำเข้า CBU จีน) | 1.5 Turbo Plug-in Hybrid
อย่างไรก็ตาม แผนการผลิตรถกระบะในประเทศไทยที่จะเกิดขึ้นในปี 2569 ยืนยันว่าจะไม่ใช่การผลิตรถกระบะ Shark 6 อย่างแน่นอน แต่จะเป็นการผลิตรถกระบะรุ่นอื่นแทน
ด้านการผลิตรถยนต์รุ่นอื่น ๆ อาทิ Seagull และ Atto 2 ในประเทศไทย ยังไม่มีแผนการผลิต เนื่องจาก ปัญหาการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ที่ต้องมีมากกว่า 50% โดยจะต้องเจรจากับซัพพลายเออร์ ซึ่งที่ผ่านมามีการผลิต Dolphin และ Atto 3 โดยใช้ชิ้นส่วนร่วมกันซึ่งมีความยากด้วยการใช้เวลาและการลงทุนที่สูงกว่าจะทำให้สำเร็จ ดังนั้นหากนำรถยนต์รุ่นอื่น ๆ มาผลิตในประเทศและต้องกำหนดราคาขายที่ต่ำอีกจึงเป็นเรื่องยากมาก