Hyundai Mobility (ประเทศไทย) ประกาศทิศทางการตลาดในไทยว่าขอเป็น Lifestyle Brand ทางเลือกให้กับลูกค้า พร้อมตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ 10,000 คัน เป้าระยะกลาง 25,000 คัน และเป้าระยะกลางสูงถึง 50,000 คัน การเคลื่อนไหวของรถยนต์ Hyundai ในประเทศไทยเริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ หลัง Hyundai Motor ประเทศเกาหลี เดินหน้าบุกตลาดประเทศไทยเต็มตัว ด้วยการเปิดตัวบริษัท Hyundai Mobility มารับผิดชอบการทำตลาดรถยนต์ Hyundai ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าในวันนี้ บริษัทแม่ได้มาลงทุนและเดินหน้าในตลาดไทยอย่างเต็มตัวแล้ว
ล่าสุด Hyundai Mobility ได้เปิดตัวรถยนต์ Hyundai CRETA เวอร์ชั่นใหม่ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่ง Hyundai CRETA เวอร์ชั่นใหม่ นี้ได้มีการปรับราคาจำหน่ายลง แต่เพิ่ม option มากขึ้น และรุ่นย่อยมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการรถยนต์ในกลุ่ม B-SUV มีทางเลือกมากขึ้น และเป็นเจ้าของ Hyundai CRETA ได้ง่ายมากขึ้นด้วย
อ่านประกอบ
ราคาอย่างเป็นทางการ Hyundai CRETA Black Edition : 959,000 บาท จำนวนจำกัด 50 คัน
ราคาอย่างเป็นทางการ Hyundai CRETA (2023) : 789,000 – 899,000 บาท | B-SUV หลังคากระจก Panoramic
การเปิดตัว Hyundai CRETA เวอร์ชั่นใหม่ ทำให้เราได้เห็นทิศทางการทำตลาดรถยนต์ Hyundai ในบ้านเราชัดเจนมากขึ้น
มร.ซังวู จุง (Sungwoo Jung) Strategy / Sales / Marketing Department ของ Hyundai Mobility (ประเทศไทย) ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวไทย อย่างเป็นทางการครั้งแรก ว่า Hyundai ให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยอย่างมาก เพราะเป็นตลาดหลักในอาเซียนที่มียอดขายเติบโตไม่น้อย ดังนั้นหากรถยนต์ Hyundai ประสบความสำเร็จในประเทศไทย ก็จะเป็นฐานสำคัญในการขยายตลาดไปสู่อาเซียนต่อไป
ทั้งนี้ Hyundai จะเน้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าชาวไทย ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บริการหลังการขาย โชว์รูมและศูนย์บริการ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสความเป็นแบรนด์ Hyundai อย่างชัดเจนมากขึ้น
“เราตั้งเป้าการจำหน่ายในประเทศไทยไว้ 3 ระยะ คือระยะสั้นในปีนี้ ตั้งเป้าขายไว้ที่ 10,000 คัน ระยะกลาง(3ปี) 25,000 คัน และระยะยาว(10ปี) 50,000 คัน”
มร.จุง กล่าวต่อว่า Hyundai ไม่ได้ต้องการวางตำแหน่งแบรนด์ Hyundai ไปแข่งขันกับแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่น หรือแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีน แต่ต้องการสร้างแบรนด์ Hyundai ให้เป็นรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าชาวไทยได้หลากหลายความต้องการ นั่นคือจะต้องเป็น LifeStyle Brand
ดังนั้นการจะสร้างให้เป็น LifeStyle Brand ได้นั้น Hyundai จำเป็นต้องปรับปรุงสิ่งต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทย จะต้องไม่ได้มีแค่รถในกลุ่ม MPV เท่านั้น การพัฒนาบริการหลังการขายต้องมีมาตรฐานมากกว่าปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทกำลังปรับปรุงและพัฒนาตัวแทนจำหน่ายทั้งรายเก่าและใหม่ ให้มีมาตรฐานตามที่บริษัทตั้งไว้
“เราจะขยายดีลเลอร์ให้ครบ 40 แห่งในปีนี้ และต้องพัฒนาคุณภาพของดีลเลอร์ให้ได้ตามมาตรฐาน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ใหม่จาก Hyundai”
ส่วนการตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ Hyundai ในประเทศไทยนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการศึกษาและหารือกับหน่วยงานรัฐอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับแผนการทำตลาดรถยนต์ EV ในประเทศไทย
*หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับ product และแผนการตลาดของ Hyundai ทาง autolifethailand.tv จะนำมารายงานให้แฟนๆ ได้รับทราบต่อไป