GWM Haval H6 Minorchange #2 เปิดตัวในไทย มีนาคม 2025 นี้ ! ปรับใหม่ ครั้งใหญ่ HEV / PHEV

GWM Haval H6 Minorchange #2 เปิดตัวในไทย มีนาคม 2025 นี้ ! ปรับใหม่ ครั้งใหญ่ มาครบทั้ง HEV Hybrid / PHEV Plug-in Hybrid ภายในยกดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เกียร์คอพวงมาลัย ฯลฯ

ดีไซน์ด้านหน้าของ Haval H6 Minorchange 2024 เปลี่ยนไปจากเดิมด้วยกระจังหน้าแนวนอนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น คล้ายกับดีไซน์ของ Toyota Alphard อยู่ไม่น้อย ไฟท้ายเปลี่ยนทรงต่อติ่งไฟห้อยลงมา จนเท่ากับชายล่างของกระจัง โดยส่วนที่ต่อลงมามีชื่อเรียกว่า Starlight ประกอบด้วยไฟ LED จำนวน 54 ดวง พร้อมปรับดีไซน์กันชนใหม่ ด้านหลังปรับดีไซน์ไฟท้ายใหม่เช่นกัน โดยตัดขาดจากกันและกั้นกลางด้วยโลโก้แบรนด์ ปิดท้ายด้วยสปอยเลอร์หลังคา และ ล้อสีดำล้วน

ภายในห้องโดยสาร มีการปรับดีไซน์ใหม่ พวงมาลัยคล้ายกับรถไฟฟ้า100% ตระกูลแมวอย่าง ORA 07 หรือ Grand Cat ที่ขายในบ้านเรา หน้าจอกลางขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ส่วนจอมาตรวัด ขนาด 10.25 นิ้ว และ มีการปรับดีไซน์แดชบอร์ดหน้าใหม่ทั้งหมด

ความเปลี่ยนแปลงของ GWM Haval H6 Minorchange #2 เบื้องต้น ดังนี้

เปลี่ยน กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่
เปลี่ยน กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
เปลี่ยน ไฟหน้าดีไซน์ใหม่
เพิ่ม ไฟ Daytime Running Light LED แบบ StarLight 54 ดวง
เปลี่ยน ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว สีดำ ดีไซน์ใหม่
เปลี่ยน ไฟท้าย ดีไซน์ใหม่
เปลี่ยน ฝาท้าย ดีไซน์ใหม่
เปลี่ยน กันชนหลัง ดีไซน์ใหม่
เปลี่ยน แดชบอร์ดหน้า ดีไซน์ใหม่
เปลี่ยน พวงมาลัย ดีไซน์ใหม่
เปลี่ยน มาตรวัด Full Digital ขนาด 10.25 นิ้ว ดีไซน์ใหม่
เปลี่ยน หน้าจอกลาง Touchscreen ดีไซน์ใหม่ ขนาด 14.6 นิ้ว
เปลี่ยน คันเกียร์แบบปุ่มหมุน เป็นแบบ ก้านที่คอพวงมาลัย
เปลี่ยน คอนโซลกลาง ดีไซน์ใหม่
เปลี่ยน แบตเตอรี่ High-Voltage ในรุ่น PHEV ใหม่

Powertrain ขุมพลัง

Haval H6 Hybrid

เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ Direct Injection ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 75.0 x 84.9 มิลลิเมตร พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร

เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ได้พละกำลังสูงสุด 243 แรงม้า 530 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch ขับเคลื่อนล้อหน้า

Haval H6 PHEV (Plug-in Hybrid)

เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ Direct Injection ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 75.0 x 84.9 มิลลิเมตร พละกำลังสูงสุด 154 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 177 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ได้พละกำลังสูงสุด 326 แรงม้า 530 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch ขับเคลื่อนล้อหน้า

แบตเตอรี่ Lithium-Ternary (NMC) ขนาด 34 kWh แบบ CTP Cell-to-pack พร้อมระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟ Plug-in Hybrid วิ่งด้วย EV Mode ไฟฟ้าล้วน ระยะทางสูงสุด 201 km. (มาตรฐาน NEDC)

** รุ่น PHEV จะมีการปรับสเป็คขนาดแบตเตอรี่ใหม่ ต้องรอติดตามว่า สเป็คไทย จะเป็นอย่างไร

Charging การชาร์จไฟ

ไฟกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW ใช้เวลาจาก 0-100% ประมาณ 6 ชั่วโมง
ไฟฟ้ากระแสตรง DC Fast Chager รองรับการชาร์จสูงสุด 60 kW ใช้เวลาจาก 0-80% ประมาณ 35 นาที

ปัจจุบัน GWM Haval H6 เวอร์ชั่นไทย มีให้เลือก 2 ขุมพลัง ดังนี้

H6 HEV Hybrid Ultra Panoramic Roof ~~1,349,000~~ ~~1,099,000~~ 1,039,000 บาท*
H6 PHEV Plug-in Hybrid Ultra ~~1,699,000~~ 1,249,000 บาท*

แต่คราวนี้ GMW จะต้องเจอกับคู่แข่งเพื่อนร่วมชาติอย่าง BYD Sealion6 DM-i / Jaecoo7 SHS PHEV อีก และ เป็นเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ทุกรุ่นย่อย ในขณะที่ Haval H6 มีทั้ง Hybrid และ Plug-in Hybrid

ต้องรอติดตามว่า GWM ประเทศไทย จะวางกลยุทธ์ และ ราคาของ Haval H6 Minorchange ไว้อย่างไร เพราะคู่แข่งเปิดราคาเริ่มต้นเอาไว้ต่ำกว่าล้าน ทั้งคู่ !

ถือเป็นการบ้านที่หนักสำหรับ GWM ประเทศไทย ไม่น้อยเลยทีเดียว หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน autolifethailand จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ

เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.autolifethailand.tv