ถือเป็นความเคลื่อนไหวต่อสาธารณะชนครั้งแรกของ NETA (เนต้า) ในประเทศไทยภายหลังมีกระแสข่าวด้านลบต่อภาพใหญ่ของการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ในระดับโลกเช่นเดียวกันกับในประเทศไทยมาต่อเนื่อง
Autolifethailand ได้มีโอกาสร่วมสัมภาษณ์พิเศษ ซูน เปาหลง (Sun Baolong) ผู้จัดการทั่วไป NETA Auto Thailand และคณะผู้บริหารชุดใหม่ ภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ มอเตอร์โชว์ 2025 (Motor Show 2025) ถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจหลังจากนี้
การลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) 4 ฉบับ ล่าสุดในการประชุมผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) นับเป็นการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่บริษัทกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และทำให้ในอนาคตมีแผนที่ชัดเจนในการเดินหน้าธุรกิจในประเทศไทยต่อไปได้ โดยวงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท จาก นิสสัน ลิสซิ่ง ประเทศไทย ไม่เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างธุรกิจในไทย แต่จะเป็นวงเงินกู้สำหรับดีลเลอร์ ไว้ขอสินเชื่อด้านการขายรวมถึงการสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ลูกค้ารายย่อย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : NETA รับวงเงินสินเชื่อ 1 หมื่นล้านจาก “นิสสัน ลีสซิ่ง” เดินหน้าธุรกิจในไทย
ในปี 2568 นี้บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขาย 10,000 คัน จาก 2 รุ่นที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันได้แก่ NETA X สัดส่วน 2 ใน 3 ของยอดขายรวม และจำนวนส่วนที่เหลือเป็น NETA V II และตั้งเป้าหมายเป็นแบรนด์อันดับ 2 ด้านยอดขายของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ในประเทศไทย
สำหรับ เป้าหมายในปี 2572 บริษัทจะมียอดขายอยู่ที่ 50,000 คัน จากภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่คาดว่าจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 20% ของตลาดรถยนต์รวมในประเทศไทย โดยบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ภายในปี 2572 จำนวน 6 รุ่น เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าว
นอกจากนี้ ภายใต้ความร่วมมือด้านการผลิตกับ บริษัท บางชันเยนเนอรัลเอเซมบลี จำกัด จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวาเพื่อส่งออกในภูมิภาคอาเซียนซึ่งหลังจากนี้ 50% ของปริมาณความต้องการในภูมิภาคอาเซียนจะเป็นรถยนต์ที่ผลิตจากประเทศไทย และมีเป้าหมายที่จะใช้ชิ้นส่วนการผลิตในประเทศไทยมากว่า 70% โดยที่ผ่านมา เนต้า ในประเทศไทย มีการลงทุนรวมกว่า 1,000 ล้านหยวน (ราว 5,000 ล้านบาท)
ปัจจุบันในภูมิภาคอาเซียน เนต้า มีการทำตลาดใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, ลาว, เนปาล และ สิงคโปร์ โดยคาดว่าจะมียอดขายในภูมิภาคอาเซียนปี 2568 อยู่ที่ 30,000 คัน หรือคิดเป็น 70% ของตลาดต่างประเทศ (นอกประเทศจีน)
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทแม่ที่ประเทศจีนอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านเงินทุนในการบริหารจัดการซึ่งมาจากนักลงทุนหลายภาคส่วน และรอการประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งบริษัทได้ใช้วิธีการเจรจากับดีลเลอร์และซัพพลายเออร์ในประเทศจีนถึงการ “เปลี่ยนหนี้เป็นทุน” เพื่อลดภารหนี้ที่ผ่านมา และเปิดโอกาสให้มีนักลงทุนเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปลี่ยนหนี้ได้ 70% เป็นผู้ถือหุ้น และอีก 30% จะใช้ระยะเวลาอีกราว 15 เดือนจากนี้ในการดำเนินการจัดการหนี้ให้เสร็จสิ้น โดยเชื่อว่าวิธีการดังกล่าวจะทำให้ เนต้า สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยเงินทุนและการปรับโครงสร้างองค์กรดังกล่าวจะส่งผลดีต่อแผนการจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงตามแผนเดิมที่วางไว้
ซูน เปาหลง กล่าวว่า ในประเทศไทย บริษัทยืนยันว่าปัญหาการรออะไหล่จะเริ่มทยอยดำเนินการจัดการในช่วงเดือน เม.ย. และปัญหาดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในเดือน พ.ค. ส่วนปัญหาหนี้ในประเทศไทยยืนยันว่ามีจำนวนไม่มาก และบริษัทมีแผนที่จะชำระหนี้ทั้ง ดีลเลอร์ และ ซัพพลายเออร์ เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย. และ ภายในเดือน มิ.ย. จะสามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมดจากนั้นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจอีกส่วนหนึ่งจะทยอยเข้ามาทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ตามปกติ
“จากการสำรวจพบว่าลูกค้าของ เนต้า ไม่ได้หมดความชอบในตัวผลิตภัณฑ์ แต่ข่าวสารด้านลบทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่นในการซื้อรถยนต์ ซึ่งเชื่อว่าหากสามารถแก้ไขปัญหาจะกลับมาสู่ภาวะปกติได้”
ขณะที่ บริษัทให้ความสำคัญกับผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) มากที่สุด เพื่อสร้างผลกำไรในการดำเนินธุรกิจให้กับดีลเลอร์ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน เพื่อนำเสนอการบริการหลังการขายและการสร้างความพึงพอใจสูงสุด